เจาะลึกโปรโมชั่น เก่าแลกใหม่ (Trade-In) คุ้มหรือไม่ที่จะเปลี่ยนมาใช้ Samsung Galaxy S9 l S9+

ขึ้นแท่นสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจที่สุด ณ ชั่วโมงนี้ไปแล้ว สำหรับ Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ มือถือเรือธงรุ่นล่าสุดจาก Samsung ที่มาพร้อมกับการอัปเกรดครั้งใหญ่ในหลาย ๆ ด้านด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การประมวลผลที่รวดเร็วกว่าเดิม, กล้องถ่ายรูปใหม่แบบ Super Speed Dual Pixel Sensor ที่รองรับการถ่ายภาพได้หลากหลายรูปแบบ, ฟีเจอร์ AR Emoji สร้างอีโมจิของตัวเอง และอื่น ๆ อีกมากมาย

โดยทางโอเปอร์เรเตอร์ 3 ค่ายหลักในไทย ทั้ง dtac, AIS และ TrueMove H ก็ได้เปิดพรีออเดอร์ Samsung Galaxy S9 และ Samsung Galaxy S9+ เป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมา แต่ถ้าหากใครยังไม่ได้ทำการจอง ก็ยังพอมีเวลาถึงวันที่ 8 มีนาคมนี้ โดยการจับจองตัวเครื่องกับทางโอเปอร์เรเตอร์นั้น จะเป็นการซื้อตัวเครื่องพร้อมแพ็กเกจ ซึ่งจะมีราคาเริ่มต้นถูกที่สุดอยู่ที่ 18,400 บาทเท่านั้น

และล่าสุด ทาง Samsung ได้ออกโปรโมชั่น "เก่าแลกใหม่ (Trade-In)" เอาใจคนใช้มือถือรุ่นเก่าทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ซึ่งนอกจากจะได้รับส่วนลดสำหรับแลกซื้อ Samsung Galaxy S9 l S9+ เครื่องใหม่แล้ว ยังรับส่วนลดเพิ่มอีก 3,000 บาท รวมรับส่วนลดสูงสุดที่ 15,500 บาท (เมื่อนำ Samsung Galaxy S8+ มาแลกรับส่วนลด) ทำให้สามารถซื้อ Samsung Galaxy S9 ได้ถูกสุดที่ 12,400 บาท เท่านั้น โดยทีมงาน techmoblog ได้ทำตารางสรุปมาให้เรียบร้อยแล้ว รายละเอียดดังนี้

โปรโมชั่น เก่าแลกใหม่ สำหรับแลกซื้อ Samsung Galaxy S9

โปรโมชั่น เก่าแลกใหม่ สำหรับแลกซื้อ Samsung Galaxy S9+

คุ้มหรือไม่ กับการนำ มือถือซัมซุงรุ่นเก่า ไป Trade-In กับโปรโมชั่น เก่าแลกใหม่ ?

หลายท่านที่เห็นโปรโมชั่นนี้ คงจะเกิดคำถามว่า การนำมือถือรุ่นเก่าไป Trade-In กับโปรโมชั่น เก่าแลกใหม่ คุ้มหรือไม่ ? ราคาแลก Trade-In จากโปรแกรมคำนวณสมเหตุสมผลหรือเปล่า ? แตกต่างจากการนำ มือถือรุ่นเก่า ไปขายกับร้านตู้หรือประกาศขายเองทางอินเทอร์เน็ตมากน้อยแค่ไหน ? ซึ่งจากตารางราคาข้างต้น จะเห็นว่า โปรแกรมเก่าแลกใหม่ ผู้ใช้ Samsung Galaxy S8+ มีโอกาสได้รับส่วนลดสำหรับแลกซื้อสูงสุดถึง 15,500 บาท (ราคา Trade-In 12,500 + ส่วนลดพิเศษ 3,000) ซึ่งจะจ่ายเงินเพิ่มสำหรับซื้อ Samsung Galaxy S9 เพียงแค่ 12,400 บาท หรือ Samsung Galaxy S9+ (64 GB) เพียงแค่ 16,400 บาทเท่านั้น

ที่มา : phonehip.com

และจากที่ทีมงานได้สำรวจ ราคา Samsung Galaxy S8+ (64 GB) มือสองในตลาด พบว่า มีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ราว ๆ 14,000 - 16,000 บาท ซึ่งราคารับซื้อ Samsung Galaxy S8+ (64 GB) จะถูกหักจากราคาขายจริงประมาณ 4,000 - 5,000 บาท นั่นหมายความว่า ถ้าหากเรานำ Samsung Galaxy S8+ (64 GB) ไปขายเองกับร้านตู้ จะได้ราคาเฉลี่ยราว ๆ 10,900 - 12,900 บาท ถ้าหากเปรียบเทียบราคา Trade-In ในตารางข้างต้น จะเห็นว่าไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ถ้าหากรวมค่าโสหุ้ยต่าง ๆ อย่างเช่น ค่าเดินทาง, ค่าโทรศัพท์ และค่าเสียเวลา การ Trade-In มีโอกาสที่จะได้ราคาดีกว่า และเป็นทางเลือกที่ดีกว่า อีกทั้ง การ Trade-In มือถือรุ่นเก่ารุ่นใดก็ได้กับโปรโมชั่น เก่าแลกใหม่ ยังได้ส่วนลดพิเศษเพิ่มอีก 3,000 บาท ซึ่งอาจส่งผลทำให้ราคามือถือมือสองในตลาดลดลงอีกด้วย

ส่วนสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น อย่างเช่น iPhone 7 Plus มีโอกาสได้รับส่วนลดสูงสุดที่ 14,500 บาท หรือจะเป็น iPhone 7 ก็มีโอกาสได้รับส่วนลดสูงสุด 14,000 บาทเช่นกัน โดยผู้ที่สนใจสามารถอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับเกณฑ์ในการคัดเกรด และเช็กราคาเครื่องสำหรับโปรโมชั่นเก่าแลกใหม่ได้ที่ https://xchangemobile.com/Thailand/imthpublic โดยราคาที่ปรากฏบนเว็บไซต์เป็นการประเมินราคาในเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพเครื่อง และการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ที่ตรวจสอบตัวเครื่องด้วยเช่นกัน

5 เหตุผลที่คนใช้ Samsung Galaxy รุ่นเก่า ควรอัปเกรดมาใช้ Samsung Galaxy S9 l S9+

จากโปรโมชั่น Samsung Galaxy S9 l S9+ ทั้งจากฝั่งโอเปอร์เรเตอร์ รวมถึงโปรโมชั่นเก่าแลกใหม่ เชื่อได้เลยว่า ผู้ใช้มือถือ Samsung Galaxy รุ่นเก่า คงเริ่มอยากจะเปลี่ยนมาใช้ Samsung Galaxy S9 กันบ้างแล้ว เพราะไม่ได้จ่ายแพงอย่างที่คิด ส่วนใครที่ยังไม่ทราบว่า Samsung Galaxy S9 l S9+ มีดีกว่ารุ่นเก่าตรงไหนบ้าง ทีมงานสรุปฟีเจอร์เด่นบน Samsung Galaxy S9 และ S9+ มาให้แล้ว มีอะไรบ้าง มาดูกันเลยดีกว่า

1) กล้องปรับรูรับแสงได้

กล้องถ่ายรูป ถือว่าเป็นจุดขายของ Samsung Galaxy S9 l S9+ เลยก็ว่าได้ โดย Samsung Galaxy S9 มาพร้อมกล้องด้านหลัง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ส่วน Samsung Galaxy S9+ มาพร้อมกล้องคู่ ความละเอียด 12+12 ล้านพิกเซล ซึ่งทั้ง 2 รุ่นจะมาพร้อมกับรูรับแสงแบบ Dual Aperture ที่สามารถปรับขนาดรูรับแสงได้ที่ F/1.5 สำหรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อย และ F/2.4 สำหรับการถ่ายภาพในที่แสงสว่างมาก เพื่อปรับให้ภาพมีสีสันที่สมดุลที่สุด ส่วนกล้องด้านหน้า ความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล (ทั้ง 2 รุ่น)

นอกจากนี้ Samsung Galaxy S9+ ยังรองรับโหมดการถ่ายภาพแบบ Live Focus หรือการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ Art Bokeh เพิ่มเข้ามาสำหรับปรับฉากหลังให้เป็นโบเก้รูปต่าง ๆ ได้อีกด้วย

และเมื่อไม่นานมานี้ ทาง DxOMark ผู้เชี่ยวชาญด้านการทดสอบกล้องถ่ายรูป ทั้งบนกล้องทั่วไป และกล้องสมาร์ทโฟน ได้ยกให้ Samsung Galaxy S9+ เป็นสมาร์ทโฟนที่มีกล้องดีที่สุด ณ ชั่วโมงนี้ เหนือกว่าคู่แข่งอย่าง iPhone X และ Pixel 2

2) รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Super Slow-Mo

Samsung Galaxy S9 l S9+ รองรับการถ่ายภาพเคลื่อนไหวได้สูงสุด 960 fps ที่ความละเอียดระดับ 720p อีกทั้งยังมาพร้อมฟีเจอร์ Motion Detection ที่สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวในเฟรม และเริ่มบันทึกอัตโนมัติแค่ตั้งกล้องเตรียมถ่ายเท่านั้น อีกทั้งยังสามารถเลือกดนตรีแบ็คกราวน์ได้ถึง 35 เพลง หรือเลือกใช้เสียงเพลงจาก Playlist นอกจากนี้ ยังสามารถตัดต่อ หรือแชร์ไฟล์ในรูปแบบ GIF ได้

3) AR Emoji

ฟีเจอร์สำหรับสร้างอีโมจิแบบ 3 มิติที่สามารถขยับได้ตามการเคลื่อนไหวของร่างกาย เช่น เอียงหน้า, อ้าปาก และสามารถปรับแต่งโฉมได้ตามใจ ทั้งเสื้อผ้า, หน้า, ผม, ใส่แว่นตา หรือเปลี่ยนสีเสื้อผ้าได้ตามใจชอบ โดยอีโมจิที่ถูกสร้างแล้วจะมีลักษณะเหมือนสติกเกอร์ และจะถูกบันทึกอยู่ใน Gallery สามารถนำไปใช้กับแอปฯ อื่น ๆ อย่างเช่น Facebook, Messenger รวมถึง WhatsApp ได้

4) Bixby ฉลาดขึ้นกว่าเดิม

สำหรับ Bixby หรือผู้ช่วยอัจฉริยะเสมือนจริง ได้รับการปรับปรุงใหม่บน Samsung Galaxy S9 l S9+ ซึ่งฉลาดมากขึ้นกว่าเวอร์ชันก่อน โดยมาพร้อมกับระบบตรวจจับและจำแนกวัตถุแบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถแสดงข้อมูลได้รวดเร็วทันใจบนภาพที่กล้องกำลังจับภาพอยู่ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชัน Live Translation แปลภาษาต่างประเทศและแปลงค่าสกุลเงินต่าง ๆ พร้อมกับความสามารถในการเรียนรู้สภาพแวดล้อมที่อยู่รอบ ๆ สมาร์ทโฟน

5) Intelligent Scan ระบบการสแกนอัจฉริยะ

Samsung Galaxy S9 l S9+ มาพร้อมกับระบบการสแกนอัจฉริยะ (Intelligent Scan) ซึ่งรองรับทั้งระบบการสแกนม่านตา (Iris Scanner) และการจดจำใบหน้า (Face Recognition) สำหรับปลดล็อกตัวเครื่อง โดยจะใช้ทั้ง 2 ระบบไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งเมื่อผู้ใช้อยู่ในสภาวะที่ระบบการจดจำใบหน้าไม่สามารถใช้งานได้ ระบบจะเลือกการสแกนม่านตามาช่วยยืนยันตัวตนแทน ซึ่งนอกจาก 2 ระบบนี้แล้ว บน Samsung Galaxy S9 l S9+ ยังมีทางเลือกอื่นมาให้เลือกใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น การสแกนลายนิ้วมือ, ปลดล็อกแบบ Pattern, ใช้รหัสผ่าน หรือ PIN เป็นต้น

สำหรับผู้ที่สนใจ Samsung Galaxy S9 และ Galaxy S9+ สามารถเข้าไปสั่งจองได้ตั้งแต่วันนี้ - 8 มีนาคม 2018 นี้ และอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสั่งจองได้ที่ https://www.samsung.com/th/smartphones/galaxy-s9/shop/ โดยผู้ที่สั่งจอง Samsung Galaxy S9 และ Galaxy S9+ รับฟรี Wireless Charger Convertible มูลค่า 2,090 บาท และฟรีประกันจอแตกนาน 1 ปี (ในกรณี ตก แตก ร้าว)

**บทความนี้เป็นบทความ Advertorial

--------------------------------------
บทความโดย : techmoblog.com

Update : 07/03/2018

Samsung Galaxy S9