เปิดตัวมาตั้งแต่ช่วงต้นปี ในที่สุดก็ได้ฤกษ์วางจำหน่ายในประเทศไทยสักทีครับ กับ Samsung Galaxy Tab S3 แท็บเล็ตเรือธงรุ่นล่าสุดที่ครบเครื่องทุกการใช้งาน มาครั้งนี้ไม่ได้มีดีที่สเปกอย่างเดียว แต่ยังมีปากกา S Pen รุ่นอัปเกรดพ่วงมาด้วย จึงเป็นครั้งแรกที่เราจะได้สัมผัสการใช้งานแท็บเล็ต Samsung ระดับเรือธงพร้อมปากกา S Pen นอกเหนือไปจากตระกูล Galaxy Tab A ซึ่งคงโดนใจคนชอบขีดชอบเขียนกันอย่างแน่นอน
Samsung Galaxy Tab S3 มาพร้อมกับสเปกและฟังก์ชันการใช้งานที่โดดเด่นตามแบบฉบับของแท็บเล็ตตระกูล Galaxy Tab S โดยมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล Super AMOLED ขนาด 9.7 นิ้ว ความละเอียด 1536 x 2048 พิกเซล ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 820 Quad-core พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟิก Adreno 530 และ RAM 4 GB ความจุภายใน 32 GB กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และกล้องด้านหลัง 13 ล้านพิกเซล มีระบบ autofocus และไฟแฟลช LED ใช้งานได้ทั้งวันด้วยแบตเตอรี่ความจุ 6,000 mAh รองรับเทคโนโลยี Fast Charging บนระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat
แต่ทีเด็ดของ Samsung Galaxy Tab S3 ยังไม่หมดเท่านี้ เพราะนอกจากสเปกระดับ high-end แล้ว ยังมาพร้อมกับลำโพงถึง 4 ตัว ที่ได้รับการปรับจูนจากแบรนด์ที่เชี่ยวชาญด้านเสียงอย่าง AKG และที่สำคัญคือมาพร้อมกับปากกา S Pen รุ่นอัปเกรดที่มีหัวปากกาเล็กเพียง 0.7 มิลลิเมตร และรองรับแรงกดได้ถึง 4,096 ระดับ มอบประสบการณ์การขีดเขียนที่สมบูรณ์แบบยิ่งกว่าเดิม และเมื่อมี S Pen ก็แน่นอนว่าจะต้องมีฟีเจอร์ Air Command มาให้ใช้ด้วยเช่นกัน ซึ่งก็มากันครบทั้งการสร้างโน้ตบันทึก การคร็อปหน้าจออัจฉริยะ การเขียนบนหน้าจอ และแปลภาษา
Samsung Galaxy Tab S3 มีราคาค่าตัวอยู่ที่ 24,500 บาท จัดว่าสูงพอสมควรเมื่อเทียบกับแท็บเล็ตรุ่นอื่นๆ ในท้องตลาด แต่ความสามารถจะน่าประทับใจสมราคาหรือเปล่านั้น เราไปชมกันในรีวิว Samsung Galaxy Tab S3 โดยทีมงาน Techmoblog กันดีกว่าครับ
Samsung Galaxy Tab S3 มีดีไซน์ภายนอกไม่ต่างจากรุ่นที่แล้วเท่าไหร่ โดยมีหน้าจอแสดงผล Super AMOLED ความละเอียด 2048x1536 พิกเซล (QXGA) ขนาด 9.7 นิ้ว ตัวเครื่องหนา 6 มิลลิเมตร หนัก 434 กรัม กำลังเหมาะมือ ด้านบนมีกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/2.2 พร้อมเซ็นเซอร์ตรวจระยะห่าง (Proximity Sensor) และเซ็นเซอร์วัดแสงโดยรอบ (Ambient Light Sensor) ซึ่งมีไว้สำหรับปิดหน้าจออัตโนมัติเมื่อยกแท็บเล็ตขึ้นแนบหูเพื่อคุยโทรศัพท์ และปรับความสว่างหน้าจอโดยอัตโนมัติ
ด้านล่างมีการจัดวางปุ่มอันคุ้นเคย ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ โดยปุ่มโฮมจะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังไว้ภายในด้วย
บอดี้ของ Samsung Galaxy Tab S3 มีการครอบทับด้วยกระจกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยเฉพาะด้านหลังโล่งๆ ที่มีเพียงโลโก้ Samsung และกล้องดิจิทัล ทำให้สามารถดึงความสวยงามของบอดี้กระจกออกมาได้เต็มที่
กล้องดิจิทัลหลังมีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล มาพร้อมระบบออโต้โฟกัส รูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.2 และไฟแฟลช LED
ด้านบนของตัวเครื่องมีลำโพงเสียง 2 ตัว และเส้นเสาอากาศ ส่วนด้านล่างก็มีลำโพงอีก 2 ตัว เส้นเสาสัญญาณ ช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร และพอร์ต USB Type-C สำหรับชาร์จแบตเตอรีหรือเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ ลำโพงทั้ง 4 ตัวได้รับการปรับแต่งโดย AKG จากการทดสอบพบว่าเสียงดังกระหึ่มน่าประทับใจทีเดียว
ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่ม Power (ปุ่มสั้น) สำหรับปิดเครื่องและล็อกหน้าจอ ปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง (ปุ่มยาว) ไมโครโฟน และถาดใส่ซิมการ์ด ที่สามารถใส่การ์ด microSD ได้ด้วย ส่วนด้านซ้ายของตัวเครื่องจะเห็นจุดโลหะกลมๆ เรียงกัน ซึ่งเป็นพอร์ตสำหรับเชื่อมต่อกับ Docking Keyboard นอกจากนี้ ยังมีการฝังแม่เหล็กเอาไว้สำหรับยึดกับปากกา S Pen แต่แรงดูดค่อนข้างน้อยมาก ไม่สามารถถือเครื่องไปพร้อมกับปากกาได้ เหมาะจะเอาไว้ป้องกันปากกากลิ้งหายเวลาวางบนโต๊ะมากกว่า
มาถึงทีเด็ดของ Samsung Galaxy Tab S3 กันสักทีครับ นั่นก็คือปากกา S Pen รุ่นใหม่ที่ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น โดยรุ่นนี้ตัวปากกาหนาประมาณ 9 มิลลิเมตร พอให้จับได้ถนัดมือ
ด้ามเหน็บปากกามีโลโก้ของ Samsung และทำจากวัสดุโลหะ สามารถดูดติดกับขอบด้านข้างของแท็บเล็ตป้องกันปากกาหล่นหายได้ในระดับหนึ่ง
ปากกา S Pen รุ่นนี้มีหัวปากกาที่เล็กกว่าเดิมมาก โดยมีขนาดที่ 0.7 มิลลิเมตรเท่านั้น และยังรองรับการกดได้มากถึง 4,096 ระดับทำให้ตวัดลายเส้นได้คมกริบและแม่นยำเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น บนด้ามปากกามีปุ่มเรียกฟังก์ชัน Air Command ซึ่งจะอยู่ใกล้ๆ กับนิ้วโป้งพอดีเวลาเขียน สามารถกดเรียกใช้งานได้สะดวก
Samsung Galaxy Tab S3 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat เมื่อเปิดเข้ามาก็จะเจอกับหน้าจอ Home Screen ที่คุ้นตา แต่มีการเปลี่ยนแปลงไอคอนให้โค้งมนดูสบายตายิ่งขึ้น
หน้าตาของ App Drawer ซึ่งเป็นหน้ารวมแอปพลิเคชันทั้งหมดที่ติดตั้งบน Samsung Galaxy Tab S3 แอปพลิเคชันพื้นฐานต่างๆ มีมาให้ครบถ้วนเช่นเดิม นอกจากนี้ยังมีแอปพลิเคชันอื่นๆ ของ Samsung เช่น Samsung Health และ Secure Folder แยกไว้ในโฟลเดอร์ต่างหาก แอปพลิเคชันของ Google และ Microsoft ก็ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานด้วยเช่นกัน
หน้า Recent Apps ที่แสดงแท็บของแอปพลิเคชันที่เปิดใช้งานอยู่ทั้งหมด สามารถเลือกปิดทีละแท็บ หรือปิดทีเดียวหมดทุกแท็บเลยก็ได้ ไม่ต่างจากรุ่นก่อนๆ
สำหรับ Android 7.0 Nougat นั้นมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ที่มีประโยชน์มากๆ นั่นก็คือ Split Screen ที่ทำให้เราสามารถเปิดแอปพลิเคชัน 2 หน้าจอควบคู่กันไปได้ ช่วยให้เราทำงานได้รวดเร็วและคล่องตัวกว่าเดิม การเรียกใช้ฟังก์ชัน Split Screen ทำได้โดยเข้าไปที่หน้า Recent Apps เลือกแท็บของแอปพลิเคชันที่เราต้องการเปิด และกดสัญลักษณ์สี่เหลี่ยม 2 อันข้างๆ ปุ่ม X เพียงเท่านี้ก็สามารถใช้งานแอปพลิเคชันพร้อมกัน 2 จอได้แล้ว
เราสามารถปรับสัดส่วนหน้าต่างของ Split Screen ได้ตามต้องการด้วยการลากเส้นสีฟ้ากลางหน้าจอขึ้นหรือลง อยากให้จอไหนใหญ่ จอไหนเล็ก ปรับได้ตามสะดวก
Split Screen ใช้งานในแบบแนวนอนได้เช่นกัน
แอปพลิเคชัน Notes ของ Samsung Galaxy Tab S3 สามารถพิมพ์ตัวอักษร หรือเขียนด้วยปากกา S Pen ได้ และยังสามารถแทรกภาพหรือเสียงบันทึกลงไปได้ด้วย นับว่าตอบโจทย์กลุ่มนักเรียน-นักศึกษาที่ต้องการแท็บเล็ตขนาดเหมาะมือไว้จดเล็คเชอร์ได้อย่างตรงจุด
ตัวเครื่องขนาดกำลังดี ถือใช้งานสะดวก มีพื้นที่พอให้วางนิ้วได้ ช่วยป้องกันไม่ให้มือลั่นไปกดโดนอะไรต่อมิอะไรโดยไม่ตั้งใจ
Samsung Galaxy Tab S3 มอบประสบการณ์การวาดรูปได้ดีพอๆ กับการเขียน ด้วยปากกา S Pen รุ่นใหม่ที่มีหัวปากกาเล็กเพียง 0.7 มิลลิเมตรและแยกแยะแรงกดได้เกิน 4,000 ระดับ ทำให้จรดปากกาได้แม่นยำและไล่น้ำหนักเส้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ
สำหรับนักวาดก็สามารถนำผลงานมาแชร์หรือดูผลงานของนักวาดคนอื่นๆ ผ่านแอปพลิเคชัน PEN.UP! ของทาง Samsung ได้ ซึ่งนอกจากจะมีภาพสวยๆ ของนักวาดคนอื่นๆ แล้ว ยังมี Challenge ประจำเดือนให้นักวาดสร้างสรรค์งานศิลปะตามหัวข้อที่กำหนด เป็นการลับฝีมือกันอีกด้วย
มาถึงฟังก์ชันที่ขาดไม่ได้สำหรับ S Pen นั่นก็คือ Air Command ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ด้วยการกดปุ่มบนปากกา S Pen 1 ครั้ง โดยจะมีฟังก์ชันให้เลือก 5 อย่างได้แก่ สร้างบันทึก ดูบันทึกทั้งหมด การเลือกอัจฉริยะ เขียนบนหน้าจอ แปลภาษา และสามารถเพิ่มทางลัดอื่นๆ ได้อีกตามต้องการ
ตัวอย่างฟังก์ชันการเขียนบนหน้าจอ ซึ่งหน้าที่ของมันก็ตรงตัวเลยนั่นคือทำให้เราสามารถใช้ S Pen เขียนลงไปบนหน้าจอได้ทันที และสามารถคร็อป แชร์ และเซฟภาพเก็บไว้ได้ เหมาะสำหรับการจดบันทึกเร่งด่วน
สำหรับฟังก์ชันการเลือกอัจฉริยะก็เป็นลูกเล่นหนึ่งของ Air Command ที่น่าสนใจเช่นกัน โดยเราสามารถคร็อปภาพบางส่วนของหน้าจอ แล้วจดโน้ตลงไปได้ หรือจะคร็อปหน้าจอแล้วคัดเอาแต่ตัวอักษรก็ทำได้เช่นกัน ประหยัดเวลาในการพิมพ์ไปได้เยอะ
อีกลูกเล่นหนึ่งคือการบันทึกบางส่วนของหน้าจอเป็นภาพเคลื่อนไหวตระกูล GIF โดยสามารถเลือกระดับความละเอียดได้ตามต้องการ
ถัดมาเป็นฟังก์ชันแปลภาษา จากการทดลองถือว่าแปลออกมาได้ค่อนข้างแม่นยำ และยังเลือกแปลได้หลายภาษา เหมาะกับสถานการณ์ที่เราต้องการแปลคำศัพท์แบบเร่งด่วน
นอกจากฟังก์ชันที่ว่ามาทั้งหมดแล้ว เรายังสามารถเพิ่มทางลัดอื่นๆ ให้กับ Air Command ได้ หรือจะลบทางลัดที่มีอยู่เดิมออกก็ได้เช่นกัน
มาดูประสิทธิภาพในการเล่นเกมกันบ้างครับ จากการทดสอบกับเกม Power Rangers: Lagacy Wars ที่มีกราฟิก 3D เต็มรูปแบบ สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหลโดยที่ยังมีเอฟเฟ็กต์แสงสีเสียงครบถ้วน ไม่มีอาการกระตุกออกมาให้เห็นเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งก็เป็นผลมาจากประสิทธิภาพของชิปเซ็ต Snapdragon 820 และ Adreno 530 GPU นั่นเอง เพราะฉะนั้นเรื่องเล่นเกมจัดว่าหายห่วง เล่นได้แทบทุกเกมบน Play Store แน่นอน (แต่ถ้าเล่น ROV หรือ PES 2017 อาจจะบังคับลำบากหน่อยเพราะจอใหญ่)
ผลการทดสอบ Benchmark โดย AnTuTu ทำได้ 137377 คะแนน และของ Quadrant ทำได้ 32633
ผลการทดสอบโดย Geekbench ทำคะแนน single-core ได้ 1534 และ multi-core ทำได้ 4006 คะแนน รองรับการสัมฟัสได้พร้อมกัน 10 จุด
Samsung Galaxy Tab S3 รุ่นนี้ มาพร้อมกับกล้องด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างสุด f/1.9 พร้อมระบบ autofocus และไฟแฟลช LED และกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างสุด f/2.2 รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด Full HD 1080p ภายในแอปพลิเคชันมีโหมดการถ่ายภาพให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น อัตโนมัติ, โปร, พาโนรามา, ถ่ายต่อเนื่อง, HDR และอื่น ๆ ไม่ต่างจากในสมาร์ทโฟน ส่วนภาพที่ถ่ายจะออกมาเป็นอย่างไรนั้น ไปชมตัวอย่างกันเลยครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง Samsung Galaxy Tab S3
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า Samsung Galaxy Tab S3
Samsung Galaxy Tab S3 แสดงให้เห็นพัฒนาการของแท็บเล็ตตระกูล Galaxy Tab S ได้อย่างชัดเจน นอกจากจะอัปเกรดสเปกให้สมกับเป็นแท็บเล็ตเรือธงแล้ว ครั้งนี้ยังเสริมจุดเด่นด้วยการจับคู่กับปากกา S Pen รุ่นใหม่ที่ดีขึ้นกว่าเดิมมาก จนสามารถตอบโจทย์การใช้งานด้านการจดบันทึกและการวาดภาพได้อย่างดีเยี่ยม Samsung Galaxy Tab S3 คือการจับคู่ระหว่างแท็บเล็ต high-end และปากกาสไตลัสชั้นยอดที่ Samsung น่าจะทำออกมาตั้งนานแล้ว
นอกจากการจดบันทึกและการวาดแล้ว Samsung Galaxy Tab S3 ยังสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือความบันเทิง ด้วยขุมพลังจากชิปเซ็ต Snapdragon 820 และ RAM 4 GB นอกจากนี้ฟีเจอร์ Air Command ยังช่วยเพิ่มลูกเล่นให้กับแท็บเล็ต สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับงานลักษณะต่างๆ ได้ และตัวแท็บเล็ตยังใช้เป็นโทรศัพท์ได้อีกด้วย
Samsung Galaxy Tab S3 มีราคาเปิดตัวที่ 24,500 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่สูงระดับต้นๆ ในตลาด แต่ก็แลกมากับสเปกระดับ high-end และประสบการณ์ด้านการขีดเขียนที่เหนือกว่าด้วยปากกา S Pen เวอร์ชันอัปเกรด ใครที่กำลังมองหาแท็บเล็ตคู่ใจเพื่อการวาดและการเขียน พกพาสะดวก และครบเครื่องในตัวเอง Samsung Galaxy Tab S3 ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจครับ
จุดเด่นของ Samsung Galaxy Tab S3
จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม
ข้อควรทราบ: เครื่อง Samsung Galaxy Tab S3 ในบทความรีวิวนี้ เป็นเครื่องทดสอบจาก ซัมซุง เท่านั้น ไม่ใช่เครื่องที่วางจำหน่ายจริงแต่อย่างใด ตัวเครื่อง หรือฟังก์ชันการทำงานบางอย่างอาจยังไม่สมบูรณ์ 100% เหมือนกับเครื่องที่วางจำหน่ายจริง
---------------------------------------
บทความรีวิวโดย : techmoblog.com
Update : 05/07/2017
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |