[รีวิว] Samsung Galaxy Tab S6 Lite แท็บเล็ตโทรได้ พร้อมปากกา S Pen บนดีไซน์จอใหญ่ 10.4 นิ้ว เคาะราคาเริ่มต้นเพียง 11,990 บาท

เปิดตัวและวางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ Samsung Galaxy Tab S6 Lite แท็บเล็ตรุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมกับราคาสุดประหยัด เป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้นด้วยราคาเริ่มต้นที่ 11,990 บาท เท่านั้น

สำหรับ Samsung Galaxy Tab S6 Lite แม้จะเป็นแท็บเล็ตในตระกูล Lite ที่มีการลดสเปกจากรุ่นหลักเพื่อให้สามารถเคาะราคาค่าตัวได้ถูกลง แต่ก็ยังได้นำจุดเด่นที่ดีอยู่แล้วบนรุ่นเรือธงอย่าง Samsung Galaxy Tab S6 มาต่อยอดเช่นกัน อย่างแรกก็คือ ปากกา S Pen ที่ถือว่า เป็นอุปกรณ์คู่ใจของคนใช้ Galaxy Tab เลยก็ว่าได้ ซึ่งปากกา S Pen บน Samsung Galaxy Tab S6 Lite มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ นอกจากจะจับได้ถนัดมือแล้ว ด้านที่มีไว้แปะติดกับตัวเครื่องยังเป็นมุมตัด เพื่อไม่ให้ตัวปากกากลิ้งหล่นจากโต๊ะนั่นเอง แม้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ แต่ก็ถือว่า มีความใส่ใจในการใช้งานของผู้ใช้ไม่น้อย

นอกจากนี้ ปากกา S Pen ยังรองรับแรงกดได้ถึง 4,096 ระดับ และมีอัตราความหน่วงอยู่ที่ 26 มิลลิวินาที ทำให้ตอบสนองได้ไวขึ้น อีกทั้งไม่จำเป็นต้องชาร์จแบตเตอรี่ สามารถหยิบมาใช้งานได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมด และไม่ต้องหาซื้อเพิ่ม เพราะปากกา S Pen รุ่นนี้ แถมมาให้กับตัวเครื่องอยู่แล้ว

นอกเหนือจากเรื่องของปากกา S Pen แล้ว Samsung Galaxy Tab S6 Lite ยังใช้วัสดุตัวเครื่องแบบโลหะ ในดีไซน์แบบ Unibody แบบเดียวกับรุ่นเรือธง รวมถึงระบบเสียงยังปรับจูนโดย AKG และมีขนาดแบตเตอรี่อยู่ที่ 7,040 mAh รองรับชาร์จเร็วขนาด 15W เท่ากับรุ่นเรือธง และที่สำคัญก็คือ Samsung Galaxy Tab S6 Lite ยังรองรับช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรอีกด้วย ใครที่ชอบฟังเพลงด้วยหูฟังมีสายแบบเดิม ๆ น่าจะถูกใจฟีเจอร์นี้ไม่น้อย

สำหรับสเปกในส่วนอื่น ๆ ถือว่า มีการลดสเปกลงจากรุ่นเรือธง ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลขนาด 10.4 นิ้ว แบบ TFT LCD ความละเอียด 2000 x 1200 พิกเซล, ชิปเซ็ต Exynos 9611 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.3 GHz, ชิปประมวลผลภาพกราฟิก Mali-G72 MP3 GPU, หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB, หน่วยความจำ ROM ขนาด 64 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 1 TB, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และกล้องด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ส่วนด้านความปลอดภัยและการปลดล็อกตัวเครื่อง รองรับเฉพาะระบบการจดจำใบหน้า (Face Recognition) ไม่รองรับการสแกนลายนิ้วมือ

โดย Samsung Galaxy Tab S6 Lite จะมีให้เลือก 2 รุ่น นั่นก็คือ รุ่นรองรับ Wi-Fi และรุ่นรองรับ LTE ซึ่งรุ่นหลังจะสามารถใช้ซิมการ์ดเพื่อใช้งานเป็นโทรศัพท์ได้

มาดูกันดีกว่าว่า แท็บเล็ตน้องใหม่ ราคากำลังน่ารักรุ่นนี้ จะคุ้มค่าคุ้มราคาแค่ไหน มาพิสูจน์ไปพร้อม ๆ กันกับ รีวิว Samsung Galaxy Tab S6 Lite โดยทีมงาน techmoblog.com

 

 

• สเปก Samsung Galaxy Tab S6 Lite (Wi-Fi)
• สเปก Samsung Galaxy Tab S6 Lite (LTE)

 

สำหรับดีไซน์ของ Samsung Galaxy Tab S6 Lite ถือว่าไม่ต่างจาก Samsung Galaxy Tab S6 รุ่นท็อปมากนัก โดยมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 10.4 นิ้ว แบบ TFT LCD ความละเอียด 1200 x 2000 พิกเซล ส่วนขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 244.5 x 154.3 x 7 มม. น้ำหนัก 467 กรัม

 

ด้านบนของตัวเครื่อง (เมื่อใช้งานแบบแนวตั้ง) จะเป็นกล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ซึ่งรุ่นที่นำมารีวิวนี้ เป็นรุ่น LTE ที่สามารถใช้งานเป็นโทรศัพท์ได้ แต่จะเห็นว่าไม่มีลำโพงสนทนา ทำให้ไม่สามารถใช้งานโทรศัพท์แบบแนบหูได้ ต้องเชื่อมต่อกับหูฟังเพียงอย่างเดียว (ใช้ได้ทั้งแบบหูฟังมีสายและไร้สาย)

 

ด้านล่างตัวเครื่อง เป็นปุ่มควบคุมการทำงานแบบสัมผัส ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่ม Home และปุ่มย้อนกลับ

 

ด้านขวาของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ถาดใส่ซิมการ์ด (1 ซิม + microSD Card), ไมโครโฟน, ปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่ม Power

 

ส่วนด้านซ้ายของตัวเครื่อง ไม่มีปุ่มหรือพอร์ตใด ๆ เนื่องจาก Samsung Galaxy Tab S6 Lite รุ่นนี้ ไม่มีอุปกรณ์เสริมที่เป็นเคสคีย์บอร์ดนั่นเอง แต่สำหรับใครที่มีคีย์บอร์ดแบบ Bluetooth ก็สามารถนำมาเชื่อมต่อกับ Samsung Galaxy Tab S6 Lite และใช้พิมพ์งานได้เช่นกัน

 

ด้านบนของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ลำโพงเสียง (ตัวที่ 1), ไมโครโฟน และช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

 

ส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง เป็นพอร์ต USB Type-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่และเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์สำหรับถ่ายโอนข้อมูล และลำโพงเสียง (ตัวที่ 2)

 

ด้านหลังตัวเครื่อง จะเป็นผิวสัมผัสด้าน ส่วนกล้องด้านหลัง เป็นกล้องตัวเดียว ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ไม่มีไฟแฟลช และไม่มีเซ็นเซอร์สแกนนิ้วที่ด้านหลัง

 

สำหรับฟีเจอร์ที่ถือว่าเป็นจุดขายของ Samsung Galaxy Tab S6 Lite รุ่นนี้ก็คือ รองรับปากกา S Pen ที่แถมมาให้กับตัวเครื่อง ไม่ต้องซื้อเพิ่มแต่อย่างใด ซึ่งรุ่นนี้จะไม่มีช่องเสียบปากกา แต่จะใช้การแปะที่ด้านข้างตัวเครื่องตรงตำแหน่งถาดใส่ซิมการ์ดแทน อีกทั้งยังไม่ต้องชาร์จแบตเตอรี่ ทำให้สามารถหยิบมาขีด ๆ เขียน ๆ ได้เลยทันทีโดยไม่ต้องกลัวแบตเตอรี่หมด

 

ด้านดีไซน์ของปากกา S Pen รุ่นนี้ จะเห็นว่า ตัวปากกาไม่ใช่ทรงกลมทั้งแท่ง แต่จะมีด้านหนึ่งที่เป็นมุมตัด ที่นอกจากจะทำให้แปะตัวเครื่องได้แนบสนิทแล้ว ประโยชน์อีกอย่างก็คือ ไม่ทำให้ตัวปากกากลิ้งหล่นจากโต๊ะ แม้จะเป็นจุดต่างเล็ก ๆ แต่ก็ถือว่า ทาง Samsung ใส่ใจทุกรายละเอียดในการออกแบบเลยทีเดียว

ส่วนอุปกรณ์ที่ให้มาในชุดจำหน่ายมาตรฐาน ก็ได้แก่ หูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรแบบ In-Ear พร้อมจุกหูฟัง 2 คู่, สาย USB Type-C, เข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด (สำหรับรุ่น LTE), ปากกา S Pen และ Adapter สำหรับชาร์จไฟ ซึ่งรุ่นที่ให้มาเป็นแบบ 5V 1.55A แต่จริง ๆ แล้ว Samsung Galaxy Tab S6 Lite รองรับระบบชาร์จเร็วได้สูงสุด 15W ซึ่งสามารถใช้ Adapter ตัวอื่นมาใช้แทนได้ ช่วยทำให้ชาร์จไวได้กว่าเดิมอีกด้วย

 

เริ่มกันที่ฟังก์ชันของปากกา S Pen บน Samsung Galaxy Tab S6 Lite กันก่อน โดยมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่หลาย ๆ คนคุ้นเคย นั่นก็คือ Air Command ซึ่งเป็นเมนูลัดสำหรับปากกา S Pen นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็น สร้างบันทึก (Create Note), ดูบันทึกทั้งหมด (View All Notes), การเลือกอัจฉริยะ (Smart Select), เขียนบนหน้าจอ (Screen Write), Live Message หรือ AR Doodle เป็นต้น ซึ่งผู้ใช้สามารถเพิ่มเมนูลัดที่ใช้งานบ่อยได้ตามการใช้งาน

 

สำหรับเมนูการเลือกอัจฉริยะ (Smart Select) มีฟีเจอร์สร้างภาพเคลื่อนไหว (GIF) ที่สามารถตัดคลิปวิดีโอบางส่วนมาสร้างเป็นไฟล์ GIF ความยาวสูงสุด 15 วินาที

 

เขียนบนหน้าจอ (Screen Write) คือการ capture ส่วนที่ต้องการเน้นย้ำ หรือเขียนข้อความเพิ่มเติม สามารถเลือกปากกา และสีของปากกาได้

 

ฟีเจอร์ Live Message นั้น เป็นการวาดภาพ, เขียนตัวอักษร หรือเขียนข้อความบนภาพถ่าย แล้วบันทึกภาพเป็นไฟล์ GIF เพื่อส่งต่อให้เพื่อนได้

 

และเนื่องจากปากกา S Pen บน Samsung Galaxy Tab S6 Lite นั้น ไม่ได้รองรับการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth ทำให้ฟังก์ชันบางอย่างที่มีบนรุ่นเรือธงนั้นถูกตัดออกไป นั่นก็คือ Air Action หรือการสั่งการได้ด้วยท่าทางโดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ รวมถึงไม่สามารถปลดล็อกตัวเครื่องได้ด้วยการกดปุ่มที่ตัวปากกา และไม่สามารถกดปุ่มที่ตัวปากกาเพื่อใช้เป็นชัตเตอร์ถ่ายภาพได้

 

Samsung Galaxy Tab S6 Lite ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 10 และอินเทอร์เฟส One UI เวอร์ชัน 2.1 ซึ่งตัวเครื่องสามารถใช้งานเป็นโทรศัพท์ได้, รองรับการใช้งานซิมการ์ดเดียว และรองรับเครือข่าย 4G LTE

 

สามารถเลือกเปลี่ยนวอลเปเปอร์, Widget และตั้งค่าการใช้งานในหน้าหลัก เช่น รูปแบบหน้าจอหลัก, ตารางหน้าจอหลัก, ปุ่มแอปฯ และอื่น ๆ ได้ตามสไตล์การใช้งาน

 

การปัดลงจากขอบด้านบน จะเป็นฟังก์ชันการแจ้งเตือน และสามารถเข้าเมนูลัดสำหรับตั้งค่าการใช้งานในเบื้องต้นได้ ทั้ง Wi-Fi, Bluetooth, ล็อกการหมุนของหน้าจอ, ปรับความสว่างของหน้าจอ, Airplane Mode รวมถึงกดปิดตัวเครื่องได้จากส่วนนี้เช่นกัน

 

ปุ่ม Recent Apps จะเป็นหน้ารวมแอปพลิเคชันที่เคยเปิดใช้งานเอาไว้ เพื่อให้สามารถสลับไปใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น ซึ่งผู้ใช้สามารถปิดแอปฯ ที่ไม่ใช้งานได้ด้วยการปัดขึ้น หรือปิดทั้งหมดได้ภายในปุ่มเดียว นอกจากนี้ การกดค้างที่ไอคอนแอปฯ จะเป็นการเข้าสู่เมนูลัดต่าง ๆ

 

Samsung Daily (Bixby Home เดิม) เป็นฟีเจอร์ที่ประกอบด้วยคอนเทนต์ต่าง ๆ ที่ผู้ใช้ให้ความสนใจ รวมถึงข้อมูลและกิจกรรมต่าง ๆ ของผู้ใช้จะถูกรวมมาไว้ในหน้าเดียว เปิดใช้งานด้วยการปัดจากซ้ายไปขวา

 

การปัดจากขอบด้านขวาของหน้าจอหลัก จะเป็นถาด Multi-Window ซึ่งเป็นเมนูลัดเข้าสู่แอปพลิเคชันที่ใช้งานบ่อย โดยผู้ใช้สามารถเปิดปิดการใช้งานฟีเจอร์นี้ได้ที่ การตั้งค่า > คุณสมบัติขั้นสูง > ถาดมัลติวินโดว์

 

โหมดมืด จะเป็นการปรับเปลี่ยนธีมให้เป็นโทนสีดำ เพื่อให้ใช้งานได้สบายตาขึ้นในตอนกลางคืน ซึ่งผู้ใช้สามารถเปิด-ปิดใช้งานได้ด้วยตนเอง หรือตั้งเวลาเปิด-ปิดก็ได้เช่นกัน ด้วยการเข้าไปที่ การตั้งค่า > จอภาพ

 

สามารถตั้งค่าการแสดงผลของไอคอนแอปฯ ทั้งในหน้าจอหลัก และหน้าจอแอปฯ ได้ 2 รูปแบบ ซึ่งได้แก่ 5x5 และ 6x5

 

ด้านปุ่มควบคุมการทำงานแบบสัมผัส สามารถเลือกสลับตำแหน่งของปุ่ม Recent Apps กับปุ่ม Back ได้ หรือจะเปลี่ยนเป็นการควบคุมการทำงานแบบใช้ท่าทางก็ได้เช่นกัน

 

ในด้านความปลอดภัยและการปลดล็อกตัวเครื่องนั้น รุ่นนี้รองรับเฉพาะการสแกนใบหน้า (Face Recognition) เพียงอย่างเดียว ไม่รองรับการสแกนลายนิ้วมือ

 

ปุ่มด้านข้าง (ปุ่ม Power) สามารถตั้งค่าการใช้งานได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งการกดปุ่ม 2 ครั้ง จะเป็นการเปิดกล้องด่วน / เปิด Bixby / เปิดแอป ส่วนการกดค้าง จะเป็นการปลุก Bixby / ปิดเครื่อง สามารถเลือกได้ตามสไตล์การใช้งานของแต่ละคน

 

การกดค้างที่ไอคอนแอปฯ ในหน้า Recent Apps นั้น จะเป็นการเข้าสู่เมนูลัดของแอปฯ นั้น ซึ่งบางแอปพลิเคชัน อย่างเช่น YouTube สามารถเปิดใช้งานได้ทั้งแบบมุมมองหน้าจอแยก และมุมมองแบบ Pop-Up

 

รองรับการสั่งการด้วยการเคลื่อนไหวและท่าทาง ซึ่งประกอบด้วย โหมดพักหน้าจออัจฉริยะ กับ การปัดเพื่อโทรออกหรือส่งข้อความ

 

Digital Wellbeing เป็นโหมดสำหรับติดตามเวลาในการใช้งานแต่ละแอปพลิเคชัน ที่ผู้ใช้สามารถตั้งค่าขีดจำกัดรายวันในการใช้งานแอปฯ แต่ละแอปฯ ได้ นอกจากนี้ ผู้ปกครองยังสามารถเพิ่มการจำกัดคอนเทนต์และตั้งค่าการจำกัดการใช้งานของบุตรหลานให้ใช้งานในแต่ละวันได้ด้วยเช่นกัน

 

Smart Manager แอปพลิเคชันสำหรับดูแลและบำรุงรักษาอุปกรณ์ ซึ่งสามารถปรับการตั้งค่าได้หลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น แบตเตอรี่, พื้นที่จัดเก็บในภายตัวเครื่อง, เคลียร์ RAM, สถานะความปลอดภัย และควบคุมปริมาณการรับส่งข้อมูลผ่านเครือข่าย

 

รองรับฟีเจอร์ Game Booster สำหรับเกมเมอร์ ซึ่งระบบจะทำการเรียนรู้รูปแบบการใช้งานของผู้ใช้เพื่อปรับการใช้งานให้เหมาะสม นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถบล็อกการแจ้งเตือนต่าง ๆ รวมถึงสายเรียกเข้าไม่ให้รบกวนในระหว่างเล่นเกมได้ อีกทั้งยังมีโหมดล็อกหน้าจอและสามารถกลับเข้ามาเล่นเกมเดิมได้ทันที โดยที่ไม่ต้องเข้าแอปฯ เกมนั้นใหม่

 

ลองมาทดสอบประสิทธิภาพในการเล่นเกมกันบ้าง ซึ่ง Samsung Galaxy Tab S6 Lite รุ่นที่นำมาทดสอบนี้ มาพร้อมกับชิปเซ็ต Exynos 9611 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.3 GHz, ชิปประมวลผลภาพกราฟิก Mali-G72 MP3 GPU, หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB, และหน่วยความจำ ROM ขนาด 64 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 1 TB โดยจากการทดสอบเล่นเกมยอดนิยมอย่าง PUBG Mobile และ ROV พบว่าพอเล่นได้ในระดับกลาง ๆ มีอาการหน่วงมากในบางจังหวะ ตัวเครื่องไม่ร้อนจัดเกินไปในขณะเปิดเกม

 

ทดสอบ Benchmark ด้วยโปรแกรม Geekbench 5 ทำได้ 347 คะแนน (Single-Core) และ 1,147 คะแนน (Multi-Core) ส่วนการทดสอบด้วยโปรแกรม AnTuTu ทำได้ 164,830 คะแนน

 

ทดสอบด้วยโปรแกรม 3D Mark กับการทดสอบแบบ Sling Shot Extreme - OpenGL ES 3.1 ได้คะแนนการทดสอบที่ 1,156 คะแนน และการทดสอบแบบ Sling Shot Extreme - Vulkan ได้คะแนนการทดสอบที่ 1,409 คะแนน

 

ส่วนเซ็นเซอร์ที่รองรับบน Samsung Galaxy Tab S6 Liteก็ได้แก่ Accelerometer Sensor, Light Sensor, Gyroscope Sensor และ Sound Sensor

 

สำหรับกล้องถ่ายรูป ปกติแล้วไม่ใช่ฟีเจอร์เด่นสำหรับอุปกรณ์ประเภทแท็บเล็ตมากนัก ทั้งนี้เนื่องจากขนาดและความคล่องตัวในการใช้งาน โดยสมาร์ทโฟนจะตอบโจทย์ในส่วนนี้ได้มากกว่า ซึ่งบน Samsung Galaxy Tab S6 Lite มาพร้อมกับกล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมโหมดการใช้งานให้เลือก 7 โหมดหลัก นั่นก็คือ รูปถ่าย, Live Focus, วิดีโอ, โปร, Panorama, อาหาร และ Hyperlapse

 

โดยโหมดถ่ายภาพปกติ รองรับฟีเจอร์ Beauty สามารถปรับความเนียนของผิว, สีผิว, หน้าเรียว และดวงตา ได้สูงสุด 8 ระดับ และสามารถใส่ฟิลเตอร์ให้กับภาพถ่ายได้

ส่วน Live Focus หรือการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ สามารถปรับความเบลอของฉากหลังได้สูงสุด 7 ระดับ และสามารถปรับความเนียนของผิว รวมถึงสีผิว ได้สูงสุด 8 ระดับ ด้านโหมดวิดีโอของกล้องด้านหน้า รองรับความละเอียดสูงสุดที่ระดับ FHD @30fps (1920 x 1080 พิกเซล)

 

สำหรับกล้องด้านหลังบน Samsung Galaxy Tab S6 Lite ความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล พร้อมโหมดถ่ายภาพให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น รูปถ่าย, Live Focus, วิดีโอ, โปร, Panorama, อาหาร และ Hyperlapse โดยโหมดรูปถ่าย สามารถเลือกมุมมองการถ่ายภาพได้ 2 แบบ นั่นก็คือ โหมดปกติ (ไอคอนต้นไม้ 2 ต้น) และโหมดซูม 2 เท่า (ไอคอนต้นไม้ 1 ต้น) นอกจากนี้ ยังมีโหมด Scene Optimizer กับการใช้เทคโนโลยี AI ในการช่วยประมวลผล และปรับแสงสีของภาพให้เหมาะสมกับวัตถุนั้นอีกด้วย

 

ด้านโหมดวิดีโอของกล้องด้านหลัง รองรับความละเอียดสูงสุดที่ระดับ FHD (1920 x 1080 พิกเซล) เช่นเดียวกับกล้องด้านหน้า

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า
โหมด Beauty ปรับความเนียนระดับ 4

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า
โหมด Beauty ปรับความเนียนระดับ 4

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า
โหมด Beauty ปรับความเนียนระดับ 8

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า
โหมด Beauty ปรับความเนียนระดับ 8

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหน้า
โหมด Live Focus ปรับความเบลอระดับ 7

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องด้านหลัง

 

Samsung Galaxy Tab S6 Lite ถือว่าเป็นแท็บเล็ตที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ด้านการขีดเขียนโดยเฉพาะเลยก็ว่าได้ เพราะไฮไลท์เด็ดของรุ่นนี้ นั่นก็คือ ปากกา S Pen ดีไซน์แบบแถบแม่เหล็ก แปะติดกับตัวเครื่องได้เลย อีกทั้งยังไม่ต้องชาร์จแบตเตอรี่ หมดกังวลปัญหาแบตเตอรี่หมด อีกทั้งยังมีขนาดที่ใกล้เคียงกับปากกาจริง ทำให้จับใช้งานได้ถนัดมือมากขึ้น แถมไม่ต้องซื้อเพิ่มเพราะรุ่นนี้มีปากกา S Pen แถมมาให้แล้วนั่นเอง

โดย Samsung Galaxy Tab S6 Lite มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 10.4 นิ้ว แบบ TFT ความละเอียด 2000 x 1200 พิกเซล พร้อมชิปเซ็ต Exynos 9611 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.3 GHz, ชิปประมวลผลภาพกราฟิก Mali-G72 MP3 GPU, หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB, หน่วยความจำ ROM ขนาด 64 GB รองรับ microSD Card และแบตเตอรี่ขนาด 7,040 mAh รองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 15W แม้ว่าสเปกที่มีจะไม่เร็วและแรงระดับรุ่นเรือธง แต่จากการทดสอบใช้งานเบื้องต้น ก็ถือว่าตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี อาจจะมีอาการหน่วงบ้าง ตัวเครื่องร้อนบ้างเมื่อใช้งานไปนาน ๆ แต่เมื่อเทียบกับราคาแล้วก็ถือว่าคุ้มค่าสมน้ำสมเนื้อ

นอกจากนี้ Samsung Galaxy Tab S6 Lite รุ่น LTE ยังสามารถใช้งานเป็นโทรศัพท์ได้ด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่า เป็นแท็บเล็ตที่ครอบคลุมการใช้งานในทุก ๆ ด้าน ทั้งการใช้งานทั่วไป, ท่องเว็บ, โซเชียลมีเดีย, ดูหนัง, ฟังเพลง, เล่นเกม รวมถึงการใช้งานด้านการถ่ายรูป ตอบโจทย์ครบจบในเครื่องเดียว

สำหรับ Samsung Galaxy Tab S6 Lite รุ่นที่วางจำหน่ายในไทย จะมีให้เลือก 2 รุ่น นั่นก็คือ รุ่น Wi-Fi ราคา 11,990 บาท มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Oxford Gray, Chiffon Pink และ Angora Blue กับรุ่น 4G LTE (รุ่นที่รีวิว) ราคา 14,990 บาท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ ได้แก่ Oxford Gray และ Angora Blue

 

จุดเด่นของ Samsung Galaxy Tab S6 Lite

• สามารถใช้งานเป็นโทรศัพท์ได้ (เฉพาะรุ่น LTE)
• ดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Unibody วัสดุโลหะมันวาว ให้ลุคพรีเมียม, แข็งแกร่ง และทนทาน
• หน้าจอแสดงผลขนาด 10.4 นิ้ว แบบ TFT ความละเอียด 2000 x 1200 พิกเซล
• ชิปเซ็ต Exynos 9611 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 2.3 GHz
• ชิปประมวลผลภาพกราฟิก Mali-G72 MP3 GPU
• หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB
• หน่วยความจำ ROM ขนาด 64 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 1 TB
• กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
• กล้องด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
• แบตเตอรี่ขนาด 7,040 mAh รองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 15W
• รองรับการปลดล็อกตัวเครื่องด้วยการสแกนใบหน้า (Face Recognition)
• รองรับ Bluetooth เวอร์ชัน 5.0
• ลำโพงแบบ Dual Speakers (2 ตัว) จาก AKG และระบบเสียงรอบทิศทางของ Dolby Atmos
• รองรับโหมดมืด กับการเปลี่ยนธีมให้เป็นสีทึบ สำหรับการใช้งานในที่แสงน้อยให้สบายตามากขึ้น
• มีปากกา S Pen ในตัว ไม่ต้องซื้อเพิ่ม
• พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
• รองรับฟีเจอร์ มุมมองป๊อปอัพอัจฉริยะ (Smart Pop-up View) กับการย่อแอปพลิเคชันให้มีขนาดที่เล็กลง และสามารถย้ายตำแหน่งได้อย่างอิสระ เพื่อให้สามารถใช้งานแอปฯ อื่นได้พร้อมกัน
• รองรับฟีเจอร์ Game Booster สำหรับเกมเมอร์ ซึ่งระบบจะทำการเรียนรู้รูปแบบการใช้งานของผู้ใช้เพื่อปรับการใช้งานให้เหมาะสม
• รองรับช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
• ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 10 และ One UI เวอร์ชัน 2.1
• ราคาเริ่มต้นเพียง 11,990 บาท (รุ่น Wi-Fi)

 

จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม

• ไม่รองรับ Samsung DeX
• กล้องด้านหลังไม่มีไฟแฟลช
• ไม่มีแอปพลิเคชันไฟฉาย (Flash) ให้ใช้งาน เนื่องจากตัวเครื่องไม่มีไฟแฟลช
• ไม่รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
• ตัวเครื่องไม่มีคุณสมบัติด้านการกันน้ำและกันฝุ่
• หน้าจอแสดงผลเป็นแบบ TFT LCD
• ไม่รองรับการสแกนลายนิ้วมือ
• ไม่รองรับฟีเจอร์ตัวกรองแสงสีฟ้า
• Adapter ที่ให้มาในชุดจำหน่ายมาตรฐานเป็นแบบ 5W
• การใช้งานโทรศัพท์จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับหูฟังแบบ Bluetooth เท่านั้น เนื่องจากตัวเครื่องไม่มีลำโพงสำหรับสนทนา

 

ข้อควรทราบ : เครื่อง Samsung Galaxy Tab S6 Lite ในบทความรีวิวนี้ เป็นเพียงเครื่องทดสอบเท่านั้น คุณสมบัติบางอย่างอาจยังไม่สมบูรณ์ 100% และอาจไม่ตรงกับตัวเครื่องที่วางจำหน่ายจริง

 

 

------------------------------------

บทความรีวิวโดย : techmoblog.com

Update : 19/06/2020

Samsung Galaxy Tab S6 Lite รีวิว Samsung Galaxy Tab S6 Lite