สำหรับชื่อของ Samsung Pay เริ่มเป็นที่กล่าวถึงในบ้านเราเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน เนื่องจากเตรียมเปิดให้บริการในไทยแล้วนั่นเอง อีกทั้งยังได้รับความสนใจไม่น้อย เนื่องจากถือว่า เป็นบริการใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครเปิดให้บริการในไทย
Samsung Pay คืออะไร ?
ซัมซุง เพย์ (Samsung Pay) คือ การชำระเงินรูปแบบใหม่ด้วยบัตรเครดิตผ่านทางสมาร์ทโฟน ใช้งานได้ง่าย สะดวก และปลอดภัย เพียงแค่เพิ่มบัตรเครดิตที่มีอยู่ลงไปบนสมาร์ทโฟน ซึ่งบัตรเครดิตที่ถูกเพิ่มลงไปนั้น จะเรียกว่า Virtual Credit Card หรือบัตรเครดิตเสมือน ที่สามารถใช้แทนบัตรเครดิตใบจริงได้นั่นเอง
โดยคอนเซปท์ของ Samsung Pay นั้น แทบจะไม่แตกต่างไปจากคู่แข่งอย่าง Apple Pay กับ Android Pay นั้นก็คือ การเพิ่มบัตรเครดิตลงบนสมาร์ทโฟน แต่ความแตกต่างระหว่าง Samsung Pay กับคู่แข่งอยู่ที่การรองรับเครื่องรูดบัตรหรือเครื่องจ่ายเงิน ซึ่ง Samsung Pay นั้น รองรับทั้งเครื่องจ่ายเงินแบบ NFC และเครื่องรูดบัตรเครดิตแบบแถบแม่เหล็ก (Magnetic Secure Transmission หรือ MST) โดยเป็นเทคโนโลยีที่ได้มาจากบริษัท LoopPay ที่ซัมซุงเข้าไปซื้อกิจการนั่นเอง ในขณะที่ Apple Pay กับ Android Pay นั่น รองรับเฉพาะเครื่องจ่ายเงินแบบ NFC เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้ ทำให้ Samsung Pay เหนือกว่าตรงที่ เครื่องรูดบัตรเครดิตส่วนใหญ่ ทั้งในไทยและทั่วโลก เป็นระบบแม่เหล็ก หรือ MST ทำให้รองรับการใช้งานได้มากกว่า นั่นหมายความว่า ต่อให้เจอเครื่องรูดบัตรทั้งแบบ NFC หรือ MST ก็รองรับการใช้งาน Samsung Pay ได้อย่างสบาย ๆ
Samsung Pay ปลอดภัยแค่ไหน ?
ขึ้นชื่อว่า เป็นเรื่องของการจ่ายเงิน แน่นอนว่า สิ่งที่ผู้ใช้ให้ความสำคัญเป็นลำดับต้น ๆ นั่นก็คือ ความปลอดภัย ซึ่งบน Samsung Pay จะมีการแยกมาตรการความปลอดภัยออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน ซึ่งได้แก่
1. เทคโนโลยี Tokenization
ปกติแล้ว การเชื่อมต่อระหว่าง บัตรเครดิต กับ Samsung Pay หรือแม้แต่ของคู่แข่งอย่าง Appley Pay หรือ Android Pay จะมีระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับบัตรเครดิตเสมือน ซึ่งเรียกว่า Tokenization ซึ่งเทคโนโลยีนี้ จะทำการแปลงบัญชีข้อมูลส่วนบุคคลจากบัตรเครดิตของผู้ใช้ ให้กลายเป็นรหัส Token เพื่อยืนยันว่า ได้มีการลงทะเบียนแล้ว จากนั้นนำ Token นี้ไปใช้ในการชำระเงินแทนการใช้ข้อมูลบัตรเครดิตจริง
หรือจะกล่าวง่าย ๆ ก็คือ ข้อมูลของบัตรเครดิตจริง จะถูกใช้ยืนยันเฉพาะการลงทะเบียนครั้งแรกเท่านั้น และไม่เก็บข้อมูลต่าง ๆ ไว้ในเครื่อง เนื่องจากแทนที่ด้วย Virtual Credit Card หรือบัตรเครดิตเสมือน ซึ่งความปลอดภัยของส่วนนี้ ก็คือว่า ต่อให้มือถือหาย หรือถูกแอบเปิดใช้ Samsung Pay ก็ไม่สามารถนำทั้งเลขที่บัตรเครดิตไปจริง รวมไปถึงเลขที่บัตรเครดิตเสมือนไปใช้งานได้ เนื่องจากถูกผูกไว้กับรหัส Token นั่นเอง
2. User Authentication
ความปลอดภัยลำดับที่ 2 เพื่อให้ Samsung Pay ปลอดภัยต่อการใช้งาน นั่นก็คือ ทุกครั้งที่จะมีการจ่ายเงิน จะบังคับให้ผู้ใช้ยืนยันตัวตนด้วยการสแกนลายนิ้วมือ หรือการใส่เลขรหัส PIN โดยจะสังเกตได้ว่า มือถือซัมซุง ที่รองรับ Samsung Pay นั้น จะรองรับการสแกนลายนิ้วมือด้วยเช่นกัน
3. Samsung KNOX
คุ้นชื่อกับ Samsung KNOX มานาน ในครั้งนี้ได้ออกมาแสดงบทบาทอย่างเต็มที่แล้วบน Samsung Pay โดย Samsung KNOX นั้น คือแพลทฟอร์มความปลอดภัยอย่างหนึ่ง ที่มีความปลอดภัยสูงมาก และถูกฝังมากับฮาร์ดแวร์กับซอฟท์แวร์ บนมือถือ Samsung รุ่นล่าสุด แน่นอนว่า มือถือซัมซุง ที่รองรับ Samsung Pay นั้น มีระบบความปลอดภัยอย่าง Samsung KNOX เช่นกัน
Samsung Pay รองรับมือถือรุ่นอะไรบ้าง ?
สำหรับสมาร์ทโฟนที่รองรับบริการ Samsung Pay ในตอนนี้ มีทั้งหมด 6 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ Samsung Galaxy Note5, Samsung Galaxy S6 edge+, Samsung Galaxy S7, Samsung Galaxy S7 edge, Samsung Galaxy A7, Samsung Galaxy A5 และพร้อมใช้งานบน Samsung Galaxy A9 Pro ในเร็ว ๆ นี้
โดยผู้ที่ใช้งานสมาร์ทโฟนทั้ง 6 รุ่นในข้างต้น จะต้องอัปเดตเฟิร์มแวร์เป็นเวอร์ชันล่าสุดเสียก่อน (จะมีแจ้งเตือนให้อัปเดตอัตโนมัติ) เมื่อทำการอัปเดตเรียบร้อยแล้ว จะปรากฏไอคอน Samsung Pay เพิ่มเข้ามา โดยที่ไม่ต้องดาวน์โหลดเพิ่มที่ Play Store แต่อย่างใด
ส่วนการใช้งาน Samsung Pay ก็ทำได้ง่าย ๆ ใน 3 ขั้นตอน นั่นก็คือ สไลด์นิ้วมือขึ้นเพื่อเปิดใช้งาน Samsung Pay, ยืนยันการชำระเงินด้วยการสแกนลายนิ้วมือ และแตะสมาร์ทโฟนบนเครื่องชำระเงิน เพียงแค่นี้ ก็สามารถใช้จ่ายผ่านทาง Samsung Pay ได้แล้ว
Samsung Pay รองรับบัตรเครดิตธนาคารใดบ้างในไทย และสามารถใช้งานได้ที่ไหนบ้าง ?
ในช่วงแรก Samsung Pay สามารถใช้งานได้เฉพาะบัตรเครดิตเท่านั้น โดยรองรับบัตรเครดิตของ 4 ธนาคาร ได้แก่ KTC, Citibank, SCB และ KBank (เฉพาะ Visa) ทั้งแบบ Visa และ Mastercard และพร้อมรองรับเพิ่มอีก 2 ธนาคาร ได้แก่ Krungsri เริ่มใช้งานได้ในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ และ Bangkok Bank (เฉพาะ MasterCard) เริ่มใช้งานได้ในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ ส่วนบัตรแบบเดบิต และบัตรเครดิตแบบอื่น ๆ คาดว่าน่าจะรองรับในเร็ว ๆ นี้เช่นกัน
สำหรับห้างสรรพสินค้า และร้านค้าที่รองรับการใช้งาน Samsung Pay ในไทย ได้แก่
ห้างสรรพสินค้า
o เดอะมอลล์รามคำแหง
o เดอะมอลล์ท่าพระ
o เดอะมอลล์บางแค
o เดอะมอลล์งามวงศ์วาน
o เดอะมอลล์บางกะปิ
o เดอะมอลล์นครราชสีมา
ซุปเปอร์มาร์เกต
o บลูพอร์ต หัวหิน
o ดิ เอ็มโพเรียม
o ดิ เอ็มควอเทียร์
o พารากอน
o เทอร์มินอล 21
o เดอะคริสตอล เอสบีราชพฤกษ์
o เดอะมอลล์บางกะปิ
o เดอะมอลล์นครราชสีมา
o เดอะ พรอมานาด
o เดอะมอลล์บางแค
o เดอะมอลล์งามวงศ์วาน
o เดอะมอลล์รามคำแหง
o เดอะมอลล์ท่าพระ
อาหารและเครื่องดื่ม
o มหานคร
o ปาร์ค เวนเจอร์
o สาทร สแควร์
o เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่
o ดิ เอ็มควอเทียร์
o เดอะ คริสตอลปาร์ค
o ซีพี ทาวเวอร์
o สยามสแควร์
o เซ็นจูรี่ (อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ)
แฟชั่น
o เซ็นทรัสพลาซ่าลาดพร้าว
o เดอะมอลล์บางกะปิ
o เซ็นทรัลพลาซ่าปิ่นเกล้า
o เซ็นทรัลเวิลด์
o เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่
o พารากอน
o ดิ เอ็มควอเทียร์
o เมกะบางนา
o เซ็นทรัลเฟสติวอลพัทยา
o เซ็นทรัลเฟสติวอลเชียงใหม่
o พารากอน
o เซ็นทรัลเวิลด์
o เดอะมอลล์บางกะปิ
o แฟชั่นไอซ์แลนด์
o เซ็นทรัลเฟสติวอลภูเก็ต
o เซ็นทรัลเฟสติวอลเชียงใหม่
o เดอะมอลล์บางแค
o เซ็นทรัลพลาซ่าเว็ส์ทเกต
o เทอร์มินอล 21
o ดิ เอ็มควอเทียร์
o เดอะมอลล์นครราชสีมา
o พาราไดสซ์ปาร์ค
o เมกะบางนา
o เซ็นทรัลพลาซ่าบางนา
o สเปลล์ ฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต
o เซ็นทรัลเฟสติวอลพัทยา
o เซ็นทรัลเฟสติวอลหาดใหญ่
o บลูพอร์ต หัวหิน
o เดอะคริสตอลมอลล์
o พารากอน
o ดิ เอ็มควอเทียร์
o เซ็นทรัลเวิลด์
o เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่
ความงาม
o สยามสแควร์
o เมกะบางนา
o ฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต
o เซ็นทรัลพลาซ่าปิ่นเกล้า
o เซ็นทรัลพลาซ่าเว็ส์ทเกต
ส่วนโปรโมชั่นการใช้จ่ายบัตรเครดิตผ่านทาง Samsung Pay มีดังนี้
นอกเหนือจากการใช้งาน Samsung Pay ในไทยแล้ว ยังสามารถใช้งาน Samsung Pay ในต่างประเทศได้ ซึ่งได้แก่ ประเทศเกาหลีใต้, สหรัฐอเมริกา, จีน, สเปน, ออสเตรเลีย, เปอร์โตริโก, บราซิล และสิงคโปร์ นอกจากนี้ ทางซัมซุง ก็เตรียมขยายบริการ Samsung Pay ไปยังประเทศอื่น ๆ เพิ่มเติมในอนาคตเช่นกัน แต่ก่อนที่จะนำ Samsung Pay ไปใช้งานในต่างประเทศ ให้ตรวจสอบเงื่อนไขการใช้งานบัตรในต่างประเทศกับธนาคารผู้ออกบัตรเสียก่อน ถ้าหากสามารถใช้งานบัตรในต่างประเทศได้ ก็สามารถใช้งาน Samsung Pay ได้
สรุป Samsung Pay มีดีอย่างไร ?
ถ้าหากเปรียบเทียบการทำงาน และการใช้งาน Samsung Pay กับบริการของคู่แข่งอย่าง Apple Pay กับ Android Pay คงไม่แตกต่างกันมากนัก เนื่องจากเป็นการใช้บัตรเครดิตเสมือน และชำระเงินด้วยการแตะบนที่เครื่องจ่ายเงินแบบ NFC เหมือนกัน แต่สิ่งที่ทำให้ Samsung Pay โดดเด่นกว่าคู่แข่ง ก็คงเป็นเรื่องของ การรองรับเครื่องรูดบัตรเครดิตแบบแถบแม่เหล็ก (Magnetic Secure Transmission หรือ MST) ที่ร้านค้าส่วนใหญ่ ทั้งในไทยและต่างประเทศ ใช้เครื่องรูดบัตรเครดิตแบบนี้ ทำให้ไม่ต้องมีการติดตั้งเพิ่ม สามารถใช้งานได้เลยทันที
จุดเด่นข้อถัดมาสำหรับ Samsung Pay นั่นก็คือ ความสะดวกในการใช้งาน เหมาะอย่างมากสำหรับผู้ที่พกพาบัตรเครดิตหลาย ๆ ใบ เพราะสามารถจัดเก็บไว้ในที่เดียว อีกทั้งยังใช้งานง่าย แค่เลือกบัตร, แตะ, สแกนลายนิ้วมือ และจ่ายเงิน นอกจากนี้ ยังปลอดภัยต่อการใช้งานด้วยเทคโนโลยี Tokenization และ Samsung KNOX ต่อให้เครื่องหายหรือถูกขโมย ก็ไม่สามารถใช้งาน Samsung Pay ได้
ส่วนข้อจำกัดของ Samsung Pay ก็คงจะเป็นการรองรับบนสมาร์ทโฟนบางรุ่น ซึ่งต้องเป็น มือถือซัมซุง เท่านั้น และรองรับเฉพาะรุ่นที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ แต่เชื่อว่าในอนาคต เมื่อมีการใช้งาน Samsung Pay อย่างแพร่หลาย ทางซัมซุง น่าจะพัฒนาให้ มือถือระดับกลางหรือระดับล่าง สามารถใช้งาน Samsung Pay ได้ด้วยเช่นกัน
เมื่อระบบพร้อม มือถือพร้อม สุดท้ายก็คงเป็นความรู้และความเข้าใจของร้านค้าเกี่ยวกับการใช้งาน Samsung Pay ว่าคืออะไร ใช้งานอย่างไร และสามารถนำมาปรับใช้กับธุรกิจของตนเองได้อย่างไรบ้าง ซึ่งในช่วงแรกคาดว่า น่าจะมีติดขัดบ้างเล็กน้อย ทั้งผู้ใช้งาน และร้านค้า ก็คงต้องมีการเรียนรู้และฝึกใช้งานกันก่อน ส่วนร้านค้าที่ลูกค้าต้องยื่นบัตรเครดิตให้รูดที่โต๊ะ แทนการเดินไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ ก็คงต้องเปลี่ยนวิธีการใหม่เพื่อให้รองรับกับการใช้งาน Samsung Pay ครับ
สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับ Samsung Pay สามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.samsung.com/th/samsungpay/index.html
---------------------------------------
ที่มา : techmoblog.com
Update : 18/11/2016
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |