ซัมซุงจารึกประวัติศาสตร์ใหม่วงการทีวี เปิดตัวสมาร์ททีวีเจเนเรชันใหม่สุดอัจฉริยะ ตั้งเป้าสมาร์ททีวีโต 250-300% ปีนี้

กรุงเทพฯ (3 เมษายน 2555) – ซัมซุงบุกตลาดสมาร์ททีวีเต็มกำลัง เปิดตัวซัมซุง สมาร์ททีวีเจเนเรชันล่าสุด สร้างเทรนด์ว้าวในกลุ่มผู้บริโภค เพิ่มความน่าตื่นเต้นด้วย 3 คุณสมบัติเด่น คือ สมาร์ทอินเตอร์แอ็คชัน (Smart Interaction) สมาร์ทคอนเทนต์ (Smart Content) และสมาร์ทอิโวลูชัน (Smart Evolution) ในงานแสดงผลิตภัณฑ์ภาพและเสียงประจำปี 2555 หรือ เอวี ฟอรัม 2012 (Samsung AV Forum 2012) วางกลยุทธ์เป็นผู้นำตลาดสมาร์ททีวี และความบันเทิงภายในบ้านแบบครบวงจร มั่นใจครองความเป็นผู้นำเซ็กเมนต์สมาร์ททีวีด้วยการเติบโต 250-300 %

นายรัชตะ สุทธาพัฒน์ธานนท์ ผู้จัดการอาวุโสธุรกิจภาพและเสียงและดิจิตอล อิมเมจจิ้ง บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า “ภาพรวมการแข่งขันของตลาดสมาร์ททีวีในปีนี้จะเน้นที่ 3 ปัจจัยหลัก คือ การใช้งานสมาร์ททีวี ที่ง่ายขึ้น แอพพลิเคชันที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค และการทำให้ทีวีทันสมัยอยู่เสมอ ซึ่งถือได้ว่าตลาดสมาร์ททีวีในเมืองไทยนั้นมีศักยภาพเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปจากเดิม จากที่เคยเลือกซื้อทีวีจอตู้ หรือซีอาร์ที ทีวี (CRT TV) ก็เริ่มเปลี่ยนมาเป็นทีวีจอแบน (Flat TV) แอลซีดี ทีวี (LCD TV) พลาสม่า ทีวี (Plasma TV) แอลอีดี ทีวี (LED TV) ยิ่งไปกว่านั้นการใช้อินเทอร์เน็ตได้ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคชาวไทยมากขึ้น เห็นได้จากอัตราการใช้อินเทอร์เน็ตของคนไทยปัจจุบันมีกว่า 20 ล้านคน ไม่ว่าจะเป็นการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อหาข้อมูล สังคมออนไลน์ หรือสื่อความบันเทิงต่างๆ ทำให้สมาร์ททีวี เข้ามาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการให้ทีวีเป็นศูนย์รวมความบันเทิงภายในบ้าน ส่งผลให้ตลาดสมาร์ททีวียังมีโอกาสเติบโตอีกมาก”

ในปีนี้ซัมซุงได้วางกลยุทธ์ที่จะครองผู้นำในตลาดสมาร์ททีวีและความบันเทิงภายในบ้านอย่างครบวงจร โดยได้เตรียมเปิดตัวซัมซุง สมาร์ททีวีรุ่นใหม่กว่า 25 รุ่น ที่มีความน่าสนใจมากขึ้นด้วย 3 คุณสมบัติ ได้แก่

·       สมาร์ทอินเตอร์แอ็คชัน (Smart Interaction)* ระบบสั่งงานอัจฉริยะช่วยให้สามารถสั่งงานผ่านการควบคุมด้วยเสียง (Voice control) ควบคุมด้วยการเคลื่อนไหว (Motion control) และระบบการจดจำใบหน้า (Face recognition) โดยไม่จำเป็นต้องผ่านรีโมทคอนโทรล สร้างความสะดวกสบายให้ผู้ใช้มีอิสระในการใช้งาน เหมาะสมกับลักษณะการดำเนินชีวิตของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน

·       สมาร์ทคอนเทนต์ (Smart Content)**การขยายคอนเทนต์ให้มีความหลากหลาย และตอบสนองความต้องการแบบเฉพาะบุคคลยิ่งขึ้นบนแอพของสมาร์ททีวี เช่น Family Story, Fitness และ Kids เป็นต้นนอกจากนี้ยังมีฮับต่างๆ อาทิ ออลแชร์ (AllShare Play) ที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าสู่คอนเทนต์ส่วนตัวบนหน้าจอของสมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ ได้ในทุกที่ ทุกเวลา และยังมีบริการเสริมต่างๆ อีกมากมาย

·       สมาร์ทอิโวลูชัน (SmartEvolution)*** ประกอบด้วยฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ที่ได้รับการอัพเกรดให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในทุกปี โดยใช้เทคโนโลยี System-on-chip ซึ่งเป็นชิพอัจฉริยะเอกสิทธิ์เฉพาะของซัมซุงที่จะทำให้ทีวีของคุณตามติดเทคโนโลยีใหม่และล้ำสมัยอยู่เสมอ

“สำหรับสินค้าในกลุ่มเครื่องเสียง ซัมซุงได้นำเสนอเทคโนโลยีใหม่ Vacuum Tube AMP ที่ผสมผสานระหว่างเสียงธรรมชาติของ Analog Amp และเสียงหนักแน่นของ Digital Amp ทำให้คุณภาพเสียงที่ออกมานั้นจะมีความหนักแน่น ชัดเจน แต่ยังคงความเป็นธรรมชาติอยู่ รวมถึงสินค้ากลุ่มโฮมเธียเตอร์แบบ Half Tall ที่เข้ามาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยที่มีพื้นที่จำกัดในการวางลำโพงขนาดใหญ่ภายในบ้าน ทั้งยังมีสินค้า กลุ่มออดิโอด็อก (Audio Dock) ที่จะเข้ามาเติมเต็มตลาดเครื่องเสียงให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่นิยมใช้สมาร์ทโฟนในการฟังเพลงมากยิ่งขึ้น” นายรัชตะกล่าวเสริม

ด้านนางจันทร์วิภา พิพัฒนกุล ผู้อำนวยการกลุ่มการตลาดองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า “ซัมซุงเน้นการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อเข้าถึงความต้องการของกลุ่มเป้าหมายให้ได้ชัดเจนที่สุด ร่วมด้วยทำการตลาดแบบครบวงจร 360 องศา ไม่ว่าจะเป็นสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ บิลบอร์ดและ สื่อกลางแจ้ง การรีวิวผลิตภัณฑ์ในสื่อต่างๆ รวมไปถึงการจัดตกแต่งหน้าร้านเพื่อสร้างประสบการณ์เกี่ยวกับสมาร์ททีวีให้กับลูกค้า โดยในปีนี้ซัมซุงจะแยกกลุ่มของสมาร์ททีวีออกมาอย่างชัดเจน มีการจัด Experience zone ในห้างสรรพสินค้าต่างๆ เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีประสบการณ์ร่วมและมีความเข้าใจเกี่ยวกับสมาร์ททีวีมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการจัดโร้ดโชว์ไปตามแหล่งชุมชนทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดใหญ่ๆ และมีการจัดกิจกรรมร่วมกับตัวแทนจำหน่ายของซัมซุงเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับสมาร์ททีวีในจังหวัดต่างๆ ด้วยเช่นกัน ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้จะช่วยให้ซัมซุงสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายของสมาร์ททีวีได้เต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ซัมซุงยังวางแผนจัดโปรโมชันส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมในช่วงฟุตบอลยูโร 2012 โอลิมปิก 2012  แคมเปญ 11 Days Special รวมไปถึงแคมเปญใหญ่ส่งท้ายปี เป็นต้น” 

“ผลจากการทำตลาดอย่างเต็มรูปแบบในปีนี้นั้น ซัมซุงมั่นใจว่าซัมซุง สมาร์ททีวีจะได้รับกระแสตอบรับจากผู้บริโภคอย่างล้นหลามและสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้แก่วงการทีวีในเมืองไทย โดยตั้งเป้ายอดขายซัมซุง สมาร์ททีวี เติบโต 250 - 300% (ยอดขาย) พร้อมครองตำแหน่งผู้นำตลาดทีวีในเมืองไทย 6 ปีติดต่อกัน” นายรัชตะกล่าวปิดท้าย

Update : 04/04/2012

Samsung Samsung Smart TV