Samsung Solve For Tomorrow 2023 ปิดฉากเวทีระดับโลก ประชันเปลี่ยน “ไอเดีย” เป็น “นวัตกรรม” ให้เกิดขึ้นจริง

จบลงแล้ว Samsung Solve For Tomorrow 2023 เวทีระดับโลก ประชันเปลี่ยน “ไอเดีย” เป็น “นวัตกรรม” ให้เกิดขึ้นจริง สร้างแรงกระเพื่อมสู่ความเปลี่ยนแปลงที่กว้างขวางในอนาคต

กรุงเทพ, ประเทศไทย (13 ธันวาคม 2566) – ปิดฉากลงเป็นที่เรียบร้อยกับโครงการ Samsung Solve For Tomorrow 2023 เวทีประชันไอเดียนวัตกรรมระดับโลกของซัมซุง จากวิสัยทัศน์ที่มุ่งผลักดันการศึกษาแก่เยาวชนที่เป็นต้นกล้าแห่งความเปลี่ยนแปลงในอนาคต งานนี้บอกได้เลยว่าอัดแน่นทั้งความรู้ ประสบการณ์ รวมถึงทักษะที่สำคัญของนวัตกร ตลอดระยะเวลา 4 เดือนเต็ม ในปีนี้จัดการประกวดภายใต้หัวข้อ MAKE YOUR IMPACT! “คิดแก้ปัญหา พัฒนานวัตกรรม ลงมือทำให้ยั่งยืน” มีผู้เข้าร่วมโครงการเติบโตอย่างก้าวกระโดด มีนักเรียน, คุณครู และผู้ปกครอง ที่ปรึกษาทีม ทั้งหมด 3,720 คน จาก 945 ทีมทั่วประเทศ มากกว่าปีที่ผ่านมา 3. 2 เท่า

โครงการ Solve for Tomorrow ริเริ่มครั้งแรก ในปี 2563 ด้วยความตั่งมั่นที่จะพัฒนาศักยภาพให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ ได้เข้ามาเรียนรู้ เสริมทักษะการเป็นนวัตกร เพื่อนำความรู้ด้านเทคโนโลยี และประสบการณ์จากองค์กรชั้นนำอย่างซัมซุง กลับไปพัฒนา หรือบรรเทาปัญหาในชุมชนของตัวเองให้ดีขึ้น โดยมีจุดเด่นที่แตกต่างกับโครงการอื่นๆทั้ง หลักสูตรการเทรนด์ที่แค่สมัครก็ได้เข้าเทรนแบบไม่มีค่าใช้จ่าย มุ่งพัฒนาทักษะที่เป็นที่ต้องการในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Design Thinking การคิดวิเคราะห์ ความคิดสร้างสรรค์  การทำงานร่วมกับผู้อื่น และการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการพัฒนาเชิงปฎิบัติผ่านการสอน และการลงมือทำจริง กับผู้สอนคุณภาพ ที่มีประสบการณ์การสอนจากทั้งในและต่างประเทศ อยู่ในสนาม 

การทำงานจริง และมีความต้องการที่จะพัฒนาเยาวชนของชาติอย่างแท้จริง

หรือจะเป็นการพัฒนาไอเดียให้ปลายเป็นนวัตกรรม โดยซัมซุงจะสนับสนุนทั้งด้าน ทุนสนับสนุนโครงการ และโอกาสที่จะได้พัฒนาไอเดียของตนกับผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรอย่าง NSTDA ที่มาช่วยคัดสรรค์ปรึกษาโครงการเพื่อให้เหมาะสม และตอบโจทย์กับโครงงานที่เยาวชนพัฒนาขึ้นมามากที่สุด เช่น การพัฒนาแอปพลิเคชั่น ก็จะได้ปรึกษาโดยตรงกับอาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ หรือเรื่องสุขภาพ ก็ติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการแพทย์โดยตรง เด็กๆ จะได้ insight จริงจากผู้เชี่ยวชาญ และได้ต่อยอดทักษะที่ตัวเองสนใจแบบตรงจุด นำไปสู่การพัฒนา prototype ที่มีคุณภาพและจับต้องได้จริงมากขึ้น สุดท้ายทีมที่ชนะอันดับ 1 ยังได้รับทุนการศึกษา ผลิตภัณฑ์จากซัมซุง และทริปไปทัศนศึกษาที่ Samsung Head quarter ที่ประเทศเกาหลีใต้อีกด้วย

นอกจากนี้เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการจะได้ผลงานและประสบการณ์ที่ได้รับการรับรอง จากซัมซุง และพันธมิตรที่ให้ ความร่วมมือ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงศึกษาธิการ สถาบัน และองค์กรชั้นนำด้านการศึกษาในระดับประเทศ พร้อมยังได้รับ ประกาศนียบัตร ลงนามโดย ท่านเลขาธิการ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สพฐ. และ ประธาน บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด

ปีนี้นับว่าผลงานแต่ละทีมโดยเด่นไม่แพ้กัน ทำเอากรรมการปวดหัวและหนักอกหนักใจเป็นอย่างมาก มาดูกันดีกว่าว่าทีมที่ชนะ เด็กๆพัฒนาไอเดียมาเป็นนวัตกรรมอะไรบ้าง

ทีมชนะเลิศ KidneyLifePlus+ นวัตกรรมเครื่องมือสำหรับคัดกรองโรคไตอย่างมีประสิทธิภาพผ่านทางเรติน่าในดวงตา เพื่อเพิ่มอัตราการเข้าถึงการคัดกรองโรค มีค่าใช้จ่ายน้อยและรู้ผลทันที

ทีมรองชนะเลิศ

ทีม PAM นวัตกรรมแอปพลิเคชันที่เพิ่มตัวเลือกในการหาที่จอดรถให้กับคนที่ขับรถในเมือง

ทีม PPK DREAM TEAM นวัตกรรมเครื่องหยอดน้ำกรดยางพารา 2 in 1 ที่ทั้งหยอด และคนในเวลาเดียวกัน เพื่อประหยัดเวลาให้เกษตรกร ลดอัตราน้ำยางเสีย

ทีม ทำงานจนใกล้เป็น Stroke กับนวัตกรรม DooLare แอปพลิเคชันเพื่อสังเกตอาการผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง เพื่อลดความเสี่ยงที่เกิดจากการไปพบแพทย์ช้าเกินไป รวมถึง function ขอความช่วยเหลือให้ทันเวลา

เจนนิเฟอร์ ซอง ประธานธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า กล่าว “ 'มุ่งสร้างพลังคน มุ่งสร้างอนาคตที่ดีร่วมกัน' คือวิสัยทัศน์ของซัมซุงที่มีต่อการพัฒนาเยาวชน เพื่อนำไปสู่อนาคตที่ดีกว่า การสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ปลดล็อคศักยภาพของตัวเอง จะช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับสังคม ให้เด็กๆ คิดนอกกรอบ และลงมือทำในแบบของพวกเขาเอง ไอเดียที่สดใหม่ และการแสดงความคิดเห็นอย่างจริงใจของเยาวชนคือสิ่งที่ต้องรับฟัง และสนับสนุน เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง โดยที่เราไม่สามารถมองข้ามพลังของคนรุ่นใหม่ได้เลย สำหรับเด็กๆที่มีโอกาสน้อย เป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะทะลุเพดานของชนชั้นทางสังคม และสร้างความเปลี่ยนให้กับชีวิตตัวเอง ซัมซุงในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยี ระดับโลก ให้คุณค่ากับนวัตกรรมที่ช่วยให้ผู้คนก้าวข้ามอุปสรรคเหล่านั้น การขัดเกลาเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มีความกะตือรือร้น ในการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับสังคมจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก หากสามารถให้โอกาส และความรู้ด้านเทคโนโลยีแก่พวกเขาได้ในเวลาที่เหมาะสม เขาจะสามารถคาดหวังถึงวันพรุ่งนี้ที่ดีขึ้นได้ เริ่มจากเด็ก 1 คน ไปสู่ครอบครัว สู่ชุมชนสู่ระดับประเทศ และอีกมากมาย ซัมซุงเชื่อว่าไอเดียที่ดีนำมาซึ่งนวัตกรรมที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนให้ดีขึ้นได้จริง
 

จากความสำเร็จในปี 2565 ซัมซุงได้ขยายความสำเร็จของโครงการด้วยการจับมือร่วมกับหน่วยงานรัฐได้แก่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ) และ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยความร่วมมือนี้ได้สร้างกระแสให้โครงการในปีนี้อย่างมาก โครงการของซัมซุงได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงศึกษา ในฐานะโครงการคุณภาพ และเป็นเวทีสร้างผลงานที่โดดเด่นให้กับนวัตกรรุ่นเยาว์”

พรรณวลัย อินทราพิเชฐ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดองค์กร เผยว่า “ซัมซุงให้ความสำคัญกับการพัฒนาเยาวชน ซึ่งเป็นต้นกล้าแห่งความเปลี่ยนแปลง โครงการนี้ไม่เพียงแต่ให้ความรู้เฉพาะเชิงวิชาการ แต่ยังมุ่งหวังให้เด็กๆได้เก็บเกี่ยว ทักษะ วิธีคิด และวิธีการทำงาน ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญของนวัตกร ที่จะมีความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงสังคม โดยเริ่มต้นจาก จุดเล็กๆในวันนี้ ซัมซุงเชื่อว่า impact ที่สร้างกับเยาวชน จะส่งแรงกระเพื่อมไปสู่ความเปลี่ยนแปลงที่กว้างขวางได้ในอนาคต ภายในระยะเวลา 2 ปีของโครงการ ซัมซุงได้เห็นศักยภาพและไอเดียที่น่าสนใจมากมาย นับว่าเป็นอีกความสำเร็จที่ซัมซุงมี ความภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก มองเห็นถึงแรงผลักดันอันมหาศาลที่เกิดขึ้นทั่วโลกผ่านโครงการนี้ ที่ครอบคลุมไปด้วยโซลูชัน อันแสนสร้างสรรค์ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อจัดการกับความท้าทายที่เกิดขึ้นในชีวิต ทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน การเรียนรู้และการศึกษา สุขภาวะและการดูแลสุขภาพ รวมทั้งอื่นๆ อีกมากมาย”

สำหรับเด็กๆ ม.4-6 ที่มีความสนใจมาเป็นเลือดใหม่ของครอบครัวซัมซุง ขอชวนมาปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ ไอเดียนวัตกรรมเพื่อสังคมและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ความรู้ พร้อมเก็บผลงานเข้าพอร์ตฟอลิโอ โครงการ Solve For Tomorrow จัดขึ้นปีละ 1 ครั้ง โดยเปิดรับสมัครในเดือนพฤษภาคม ติดตามได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/samsungcsrth

Update : 13/12/2023

Samsung Samsung Solve for Tomorrow 2023