ปัจจุบันนี้เทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับพัฒนามาไกลถึงจุดที่ทดสอบวิ่งบนถนนจริงได้แล้ว และมีสมรรถนะน่าประทับใจจนเริ่มนำไปใช้งานจริงได้แล้วในบางประเทศ แต่ล่าสุดก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้ เมื่อรถบัสไร้คนขับใหม่เอี่ยมในลาสเวกัสเกิดอุบัติเหตุชนกับรถบรรทุกหลังจากออกวิ่งไปได้ไม่ถึง 2 ชั่วโมงเท่านั้น
อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งเมืองลาสเวกัสได้ทำพิธีเปิดให้บริการรถชัตเติลบัสไร้คนขับสายแรกของสหรัฐอเมริกา พร้อมกับปล่อยรถออกไปวิ่งให้บริการในตัวเมือง แต่เมื่อผ่านไปไม่ถึง 2 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้รับแจ้งเหตุว่ารถบัสไร้คนขับเฉี่ยวชนกับรถบรรทุก (ที่มีคนขับ) โดยสำนักข่าวท้องถิ่น Las Vegas Review-Journal รายงานว่าเป็นอุบัติเหตุเล็กน้อย ไม่มีผู้บาดเจ็บ และคนขับรถบรรทุกเป็นฝ่ายผิด
อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านพระราชบัญญัติยานพาหนะขับเคลื่อนด้วยตนเอง (Self Drive Act) เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งหากสภาสูงพิจารณาเห็นชอบ จะส่งผลให้ผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศได้รับการยกเว้นข้อกฎหมายบางอย่าง และสามารถส่งรถยนต์ไร้คนขับไปทดสอบบนถนนจริงได้สูงสุด 100,000 คันต่อปี หลายฝ่ายจึงตั้งข้อสังเกตว่าอุบัติเหตุครั้งนี้อาจส่งผลกับการพิจารณาพระราชบัญญัติดังกล่าวในอนาคต
ภาพถ่ายในที่เกิดเหตุ
ความเสียหายเล็กน้อยบนตัวถังรถบัสไร้คนขับ
เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่รถไร้คนขับประสบอุบัติเหตุ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมารถยนต์ไร้คนขับของ Uber เกิดอุบัติเหคุในรัซแอริโซน่า และทำให้ Uber ต้องยกเลิกโครงการทดสอบทั้งหมดในสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้วรถยนต์อัตโนมัติของ Google ก็เคยชนกับรถบัสสาธารณะในรัฐแคลิฟอร์เนีย และกรณีที่ร้ายแรงที่สุดคือกรณีรถยนต์ Tesla Model S รุ่นปี 2015 ที่ประสบอุบัติเหตุบนทางหลวงในฟลอริดาจนคนขับเสียชีวิต อันเกิดจากการตัดสินใจผิดพลาดของระบบ Autopilot
แม้อุบัติเหตุครั้งนี้จะเป็นอุบัติเหตุเล็กๆ แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่าผู้พัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติยังต้องทำการบ้านเรื่องความปลอดภัยให้มากกว่านี้ เพราะบนท้องถนน ความผิดพลาดเล็กน้อยอาจนำมาซึ่งความเสียหายใหญ่หลวงได้ทุกเมื่อครับ
---------------------------------------
ที่มา : zdnet, KSNV News 3, Las Vegas Review-Journal
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com
Update : 09/11/2017
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |