เปรียบเทียบแพ็กเกจ Share Plan แชร์ทั้งเน็ตและโทรในราคาเดียว ระหว่าง TrueMove H, AIS และ dtac ค่ายไหนคุ้มค่าที่สุด ??

ปัจจุบัน พฤติกรรมของผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ มักจะใช้งานกันหลายเครื่อง บางคนก็พกพาสมาร์ทโฟน 2 เครื่อง หรือพกพาทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ยิ่งเป็นครอบครัวด้วยแล้ว แน่นอนว่า 1 คนต้องมีอย่างน้อย 1 เบอร์ ทำให้ค่าใช้จ่ายโดยรวมค่อนข้างสูง เนื่องจากแยกกันจ่ายนั่นเอง นอกเหนือจากแพ็กเกจการใช้งานปกติแล้ว แพ็กเกจประเภท Share Plan กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะสามารถแชร์ได้ทั้งเน็ตและโทร แต่จ่ายในราคาเดียว ยิ่งเป็นครอบครัวใหญ่ด้วยแล้ว แพ็กเกจประเภทนี้ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้อย่างมากอีกด้วย

ด้านฝั่งโอเปอร์เรเตอร์รายหลักในไทยอย่าง TrueMove H, AIS และ dtac ต่างก็มีแพ็กเกจประเภท Share Plan ด้วยเช่นกัน แต่ของค่ายไหนจะคุ้มค่ามากกว่ากัน ทีมงาน techmoblog จึงทำตารางเปรียบเทียบแพ็กเกจแบบ Share Plan ของทั้ง 3 ค่ายให้ชมกัน มาดูกันดีกว่าว่า แต่ละค่ายจะมีข้อแตกต่างอย่างไรบ้าง

TrueMove H

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://truemoveh.truecorp.co.th

เริ่มกันที่ TrueMove H กันก่อน กับแพ็กเกจ 4G+ Family Share Plan ซึ่งมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 899 บาทต่อเดือน สูงสุด 2,499 บาทต่อเดือน ซึ่ง TrueMove H ถือว่า เป็นค่ายแรกที่มีแพ็กเกจประเภท Share Plan ออกมา

ข้อดีของแพ็กเกจ 4G+ Family Share Plan จาก TrueMove H

• ให้จำนวนนาทีสำหรับการโทรค่อนข้างเยอะ
• อินเทอร์เน็ตสามารถใช้งานได้ไม่จำกัด (ถ้าหากใช้ครบปริมาณที่กำหนด จะปรับลดความเร็วเหลือ 384 Kbps)
• รองรับการใช้งานสูงสุดถึง 9 คน (แพ็กเกจราคา 2,499 บาท)
• โทรหากันภายในกลุ่มฟรี
• ใช้งาน Wi-Fi ได้ไม่จำกัด

จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม

• เบอร์หลักจะต้องเป็นระบบรายเดือนเท่านั้น
• แพ็กเกจดังกล่าวเฉพาะลูกค้าที่เปิดเบอร์ใหม่เท่านั้น ถึงจะได้รับสิทธิ์ดังกล่าว
• อินเทอร์เน็ตให้ใช้งานค่อนข้างน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับค่ายอื่นในระดับราคาที่ใกล้เคียงกัน

AIS

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.ais.co.th

สำหรับแพ็กเกจ 4G Share จาก AIS นั้น สามารถแชร์ทั้งค่าโทรและค่าเน็ตได้สูงสุด 5 คน โดยเคาะราคาเริ่มต้นแพ็กเกจประเภท Share Plan ได้ถูกกว่าค่ายอื่น ๆ เริ่มต้นที่ 888 บาท สูงสุด 1,888 บาท มีให้เลือกแค่ 3 ระดับราคาเท่านั้น

ข้อดีของแพ็กเกจ 4G Share จาก AIS

• ราคาเริ่มต้นถูกที่สุด เมื่อเทียบกับ 2 ค่ายที่เหลือ เริ่มต้นที่ 888 บาท
• แชร์ได้สูงสุด 5 คน
• โทรหากันภายในกลุ่มฟรี (สูงสุดครั้งละ 1 ชั่วโมง)
• ใช้งาน Wi-Fi ได้ไม่จำกัด
• ฟรี AIS Cloud+ 100 GB
• ฟรี AIS PLAY ดูหนัง 4 เรื่อง/สัปดาห์
• ฟรี AIS Safe & Care มูลค่า 99 บาท นาน 12 เดือน

จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม

• เบอร์หลักจะต้องเป็นระบบรายเดือนเท่านั้น ส่วนเบอร์เสริม จะเป็นระบบรายเดือนหรือเติมเงินก็ได้
• อินเทอร์เน็ตไม่ใช่แบบ Unlimited ใช้งานหมดแล้วหมดเลย
• ค่าบริการส่วนเกินคิดตามการใช้งานจริง โทรทุกเครือข่ายและ VDO Call นาทีละ 1.50 บาท, SMS ข้อความละ 3 บาท และ MMS ข้อความละ 4 บาท

dtac

รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.dtac.co.th

สำหรับ dtac นั้น มีค่าบริการรายเดือนเริ่มต้นสูงกว่าค่ายอื่น ๆ อยู่ที่ 1,099 บาท แต่ก็มอบสิทธิ์ในการใช้งานอินเทอร์เน็ต และโทรฟรีค่อนข้างเยอะเช่นกัน รวมไปถึงโปรโมชั่นพิเศษ ๆ อื่น แต่ Share Package จากดีแทค รองรับการใช้งานสูงสุดแค่ 4 คนเท่านั้น

จุดเด่นของแพ็กเกจ Share Package จาก dtac

• สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้สูงสุด 100 GB (แพ็กเกจราคา 2,499 บาท)
• ฟรี Cloud Storage พื้นที่เก็บรูปและวีดีโอ 100 GB
• โทรหากันภายในกลุ่มฟรี
• ใช้งาน Wi-Fi ได้ไม่จำกัด
• แชร์ได้สูงสุด 4 คน
• PrimeTime ดูหนังสูงสุด 20 เรื่อง/เดือน
• อินเทอร์เน็ตสามารถใช้งานได้ไม่จำกัด (ถ้าหากใช้ครบปริมาณที่กำหนด จะปรับลดความเร็วเหลือ 384 Kbps)

จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม

• ราคาเฉลี่ยต่อคนค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับค่ายอื่น
• ค่าบริการรายเดือนเริ่มต้นสูงกว่าค่ายอื่น
• ติดสัญญานาน 24 เดือน

จากตารางข้างต้น ถ้าหากเปรียบเทียบแพ็กเกจในราคาที่เท่ากัน ระหว่าง TrueMove H กับ dtac จะเห็นว่า ฝั่งของ TrueMove H ได้เปรียบในเรื่องของ จำนวนเครื่องที่สามารถใช้งานได้ ซึ่งให้มากถึง 9 เครื่อง ในขณะที่ dtac ได้สูงสุดเพียงแค่ 4 เครื่องเท่านั้น ฉะนั้น ในกรณีที่มีแพลนจะซื้ออุปกรณ์เพิ่มในอนาคต ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อแพ็กเกจเพิ่มอีก นอกจากนี้ ราคาเฉลี่ยต่อคนของทาง TrueMove H ยังถูกกว่า dtac อีกด้วย

ถ้าเปรียบเทียบด้านการใช้งานอินเทอร์เน็ต จะเห็นว่า ฝั่งของ AIS กับ dtac คุ้มค่ากว่า เพราะให้จำนวน data สำหรับใช้งานด้านอินเทอร์เน็ตมากถึง 75 GB (ในระดับราคาใกล้เคียงกัน) ส่วน dtac ให้สูงสุด 100 GB ถ้าหากสมัครแพ็กเกจราคา 2,499 บาท ในขณะที่ TrueMove H แพ็กเกจราคาสูงที่สุด ให้จำนวนการใช้งานอินเทอร์เน็ตเพียง 42 GB เท่านั้น แต่ของ TrueMove H กับ dtac มีข้อดีคือ สามารถใช้งานได้ไม่จำกัด แม้จะใช้ครบ data ที่กำหนดแล้ว (จะปรับลดความเร็วเหลือ 384 Kbps) ในขณะที่ AIS ถ้าหากใช้ครบ data ที่กำหนดแล้ว จะคิดค่าใช้จ่ายตามการใช้งานจริง

จากข้อมูลข้างต้น สามารถสรุปได้ดังนี้

• TrueMove H สามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 9 เครื่อง
• ถ้าหากเน้นใช้งานด้านการโทรเป็นหลัก TrueMove H คุ้มค่าที่สุด โดยแพ็กเกจราคาต่ำที่สุด (899 บาท) สามารถใช้งานโทรฟรีได้ถึง 500 นาที ส่วน AIS สามารถใช้งานโทรฟรีได้เพียง 400 นาที ในขณะที่ dtac แม้จะใช้งานโทรฟรีได้ถึง 550 นาที แต่ต้องจ่ายแพงกว่า (1,099 บาท)
• ถ้าหากเน้นใช้งานด้านอินเทอร์เน็ต AIS คุ้มค่าที่สุดโดยแพ็กเกจราคาเริ่มต้นที่ 888 บาท ให้จำนวน data สำหรับใช้งานอินเทอร์เน็ตถึง 30 GB ในขณะที่ TrueMove H ให้มาเพียง 14 GB ด้าน dtac ให้มา 30 GB เช่นกัน แต่ต้องจ่ายแพงกว่า (1,099 บาท)
• TrueMove H และ dtac สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ไม่จำกัด (Unlimited) โดยเมื่อใช้ครบจำนวนที่กำหนดแล้ว จะปรับลดความเร็วเหลือ 384 Kbps
• ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคน TrueMove H ถูกที่สุด
• TrueMove H คุ้มค่ากว่าในกรณีที่มีอุปกรณ์เพิ่มในอนาคต ไม่จำเป็นต้องซื้อแพ็กเกจเพิ่ม

สำหรับท่านที่มีอุปกรณ์ใช้งานหลายเครื่อง และอยากจะประหยัดค่าใช้จ่าย แพ็กเกจประเภท Share Plan นี้ นับว่าเป็นทางเลือกที่ดี เพราะมีหลายท่านที่แยกซื้อแพ็กเกจ แต่กลับใช้งานได้ไม่เต็มที่ อาจจะมีชั่วโมงการโทรเหลือ หรือจำนวน data สำหรับใช้งานอินเทอร์เน็ตเหลือมากเกินความจำเป็น แต่กลับต้องจ่ายในราคาที่แพงกว่า นอกจากนี้ การเลือกซื้อแพ็กเกจประเภท Share Plan ควรจะต้องคำนึงถึงคุณภาพของสัญญาณในบริเวณที่ใช้งานด้วยเช่นกัน เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพนั่นเอง

---------------------------------------
บทความเปรียบเทียบโดย : techmoblog.com

Update : 23/12/2016

AIS dtac Truemove H Share Plan