เปรียบเทียบการทำงานระหว่าง Siri และ Google Assistant บน iPhone ผู้ช่วยส่วนตัวคนใด ตอบคำถามได้ดีและมีประโยชน์มากกว่า ?

ถ้าหากพูดถึงระบบปฏิบัติการบนสมาร์ทโฟนอย่าง Android และ iOS ฟีเจอร์หนึ่งที่ถือว่า เป็นจุดขายของทั้ง 2 ระบบ นั่นก็คือ AI Assistant หรือผู้ช่วยส่วนตัวที่สามารถเรียกใช้งานด้วยคำสั่งเสียง และถามโต้ตอบได้ ซึ่งบน iOS มี Siri ในขณะที่ฝั่ง Google ก็มี Google Assistant ซึ่งในงาน Google I/O เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทาง Google ได้เปิดตัว Google Assistant บน iPhone แม้จะไม่ได้เป็นฟังก์ชันแบบ default ที่จะมาแทนที่ Siri โดยตรง แต่ก็ถือว่า ท้าชนการทำงานของ Siri กันเลยทีเดียว

สำหรับการเรียกใช้งาน Google Assistant บน iPhone นั้น ไม่สามารถกดปุ่ม Home ได้แบบเดียวกับ Siri แต่ Google Assistant บน iPhone จะเป็นแอปพลิเคชันที่มีลักษณะการใช้งานคล้ายกับบน Android (ดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรีบน App Store) และล่าสุด ได้มีผู้เปรียบเทียบการทำงาน ระหว่าง Siri กับ Google Assistant บน iPhone ให้ชมกันแล้ว มาดูกันว่า ภายใต้คำถามเดียวกัน Google Assistant หรือ Siri จะหาคำตอบได้ถูกต้องและโดนใจผู้ทำการทดสอบมากที่สุด

**หมายเหตุ : การทดสอบเปรียบเทียบการทำงานระหว่าง Siri กับ Google Assistant บน iPhone จัดทำโดยเว็บไซต์ต่างประเทศ

 

คำถามที่ 1 : I'd like a glass of white wine? ในภาษาสเปน พูดว่าอย่างไร

Google ทำคะแนนนำไปก่อน กับคำถามในข้อแรก ที่ถามว่า I'd like a glass of white wine หรือ ฉันอยากจะได้ไวน์ขาวซักแก้ว ภาษาสเปนพูดว่าอย่างไร ซึ่งฝั่ง Google Assistant นอกจากจะสามารถค้นหาคำตอบได้อย่างถูกต้องแล้ว ยังสามารถคลิกเพื่อออกเสียงให้ฟังด้วย ในขณะที่ Siri เป็นการค้นหาคำตอบจาก Bing ด้วยการทิ้งลิงค์เอาไว้ แล้วให้คลิกต่อหาคำตอบเอาเอง ถ้าเรื่อง Search Engine คงต้องยกตำแหน่งให้กับ Google ไปโดยปริยาย

ผู้ชนะ : Google Assistant

 

คำถามที่ 2 : ถามเวลาในการเดินทาง

ผู้ทดสอบ ได้สอบถามระยะเวลาในการเดินทาง จากตำแหน่งปัจจุบันไปยังบ้าน ถือว่า ทั้ง Siri และ Google Assistant ทำได้อย่างสูสี โดยสามารถบอกระยะเวลาในการเดินทางได้ใกล้เคียงกัน แต่ Google Assistant เด่นกว่าเล็กน้อยตรงที่ มีแผนที่พร้อมระบบนำทางมาให้เสร็จสรรพ แต่ข้อนี้ ทางผู้ทดสอบให้คะแนนเท่ากันทั้งคู่ เนื่องจากถามแค่ระยะเวลา ไม่จำเป็นต้องบอกเส้นทางมาก็ได้ เนื่องจากเป็นเส้นทางที่คุ้นเคยดีอยู่แล้ว

ผู้ชนะ : เสมอกัน

 

คำถามที่ 3 : ถามปั๊มน้ำมันที่ใกล้ที่สุด

สำหรับการสอบถามหาปั๊มน้ำมันที่ใกล้ที่สุด Google Assistant สามารถค้นหาปั๊มน้ำมันที่ใกล้ที่สุด ในระยะทางเพียง 0.4 ไมล์ ในขณะที่ Siri ไกลกว่าเล็กน้อยที่ 1.1 ไมล์ นอกจากนี้ Google Assistant ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง อย่างเช่น ราคาน้ำมันในตอนนี้เป็นเท่าใด เป็นต้น

ผู้ชนะ : Google Assistant

 

คำถามที่ 4 : เปิดมิวสิกวีดีโอบน YouTube

ด้านการค้นหาเอ็มวีเพลงของวง Metallica บน YouTube ทาง Google Assistant ทำได้ดีกว่า Siri สามารถค้นหาเพลงได้อย่างถูกต้อง เพียงแต่ผู้ใช้จะต้องกด Play เพื่อเล่นวีดีโอดังกล่าวเอง ในขณะที่ฝั่ง Siri หาไม่เจอ

ผู้ชนะ : Google Assistant

 

คำถามที่ 5 : การส่งข้อความ

ผู้ทดสอบได้ลองสั่งให้ทั้ง Siri และ Google Assistant ส่งข้อความไปหาภรรยาว่าจะไปช้าหน่อย ฝั่งของ Siri ตอบรับคำสั่งได้ดี ในขณะที่ Google Assistant หาเบอร์โทรศัพท์ยังไม่เจอ

ผู้ชนะ : Siri

 

คำถามที่ 6 : ถามมูลค่าทางการตลาด (Market Capitalization) ของบริษัท Tesla

ทั้ง Google Assistant และ Siri สามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับมูลค่าทางการตลาดของบริษัท Tesla ได้ แต่จากการตรวจสอบแล้วพบว่า จริง ๆ แล้ว Market Cap ของ Tesla ในตอนนี้ อยู่ที่ 51.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่ง Siri หาคำตอบได้ใกล้เคียงกว่า แต่ในทางเทคนิคแล้วถือว่า เป็นคำตอบที่ผิดพลาดด้วยกันทั้งคู่ อย่างไรก็ดี ทั้ง Google Assistant กับ Siri ยังได้เสนอข้อมูลที่น่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติม อย่างเช่น ประวัติของบริษัท Tesla รวมไปถึงแนวโน้มราคาหุ้น เป็นต้น

ผู้ชนะ : ไม่มี

 

คำถามที่ 7 : สอบถามผลการแข่งขันกีฬาเบสบอล

ถ้าหากสอบถามในเรื่องของ ผลการแข่งขันกีฬาเบสบอล ระหว่างทีม Yankees และ Royals ทั้ง Siri กับ Google Assistant สามารถหาคำตอบได้เหมือนกัน แต่ฝั่ง Google Assistant จะเสนอการค้นหาเพิ่มเติมให้เลือกชมอีก อย่างเช่น คลิปการแข่งขัน, ตารางการแข่งขัน MLB และข่าวสารต่าง ๆ ในจุดนี้ถือว่า Google Assistant ค้นหาข้อมูลได้ละเอียดกว่า

ผู้ชนะ : Google Assistant

 

คำถามที่ 8 : สอบถามความสูงของสะพาน Golden Gate

สำหรับข้อนี้ ทางผู้สอบถามให้ Google Assistant ชนะไป เนื่องจากตอบได้ตรงคำถามมากกว่า ส่วนฝั่งของ Siri แม้จะตอบคำถามได้เช่นกัน แถมข้อมูลการแปลงหน่วยวัดมาให้ด้วย แต่ไม่ใช่สิ่งที่ผู้สอบถามต้องการ

ผู้ชนะ : Google

 

คำถามที่ 9 : สั่งให้เปิดไฟในห้องนอน

ถึงแม้ผู้ทดสอบจะอยู่นอกบ้าน (ออฟฟิศ) แต่สามารถสั่งให้ทั้ง Siri กับ Google Assistant เปิดไฟในห้องนอนได้ ซึ่งก็ทำได้ดีทั้งคู่

ผู้ชนะ : เสมอกัน

 

คำถามที่ 10 : สั่งให้ค้นหารูปที่ถ่ายที่ Seattle

ด้าน Siri แสดงรูปที่ถ่ายที่ Seattle จากแอปฯ Photos ส่วน Google Assistant แสดงรูปถ่ายจาก Google Photos ข้อนี้ถือว่า ทำได้ดีทั้งคู่เช่นกัน

ผู้ชนะ : เสมอกัน

 

สำหรับการเปรียบเทียบการทำงานระหว่าง Siri กับ Google Assistant บน iPhone ข้างต้น ทางผู้ทำการทดสอบ ให้ Google Assistant ชนะ Siri โดยถ้าหากเปรียบเทียบผู้ช่วยส่วนตัว ทั้ง Siri และ Google Assistant บน iPhone ฝั่ง Siri ได้เปรียบในแง่ของการเรียกใช้งาน สามารถกดปุ่ม Home ค้างและเริ่มพูดคุยกับ Siri ได้ด้วยคำสั่ง Hey Siri อีกทั้งยังไม่ต้องติดตั้งแอปพลิเคชันใด ๆ เพิ่มเติม แต่สิ่งที่ทำให้ Google Assistant โดดเด่น ก็คงเป็นเรื่องของ การถามตอบ ไม่ใช่แค่ถามมาตอบไป ทิ้งลิงค์เอาไว้แล้วให้ผู้ใช้ไปหาคำตอบเอาเองแบบ Siri แต่ Assistant นอกจากจะตอบคำถามดังกล่าวแล้ว ยังมีออปชันอื่นให้ได้ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้อีก ถ้าในแง่ของการหาข้อมูล ดูเหมือนว่า Assistant จะมีประโยชน์มากกว่า

อย่างไรก็ดี ถึงแม้ Google Assistant บน iPhone เป็นเพียงแค่แอปพลิเคชัน ไม่สามารถพูดอย่างเช่น Hey Siri เหมือนกับเปิดใช้งาน Siri ได้ แต่สามารถเพิ่มเป็น Widget ได้ ทำให้การใช้งาน Google Assistant บน iPhone สะดวกไปอีกขั้น นอกจากนี้ Google Assistant ยังสามารถสั่งการด้วยการพิมพ์ได้ ในกรณีที่อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สะดวกต่อการพูด ในขณะที่ Siri จะต้องพูดเพื่อสั่งการเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถพิมพ์ข้อความเพื่อสั่งการได้

โดยในตอนนี้ Google Assistant มีให้ดาวน์โหลดเฉพาะ App Store ในสหรัฐฯ เท่านั้น คาดว่า น่าจะเริ่มปล่อยให้ดาวน์โหลดบน Store ในประเทศอื่น ๆ เร็ว ๆ นี้

 

 

---------------------------------------
ที่มา : cnbc.com
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com

Update : 22/05/2017

iPhone Siri Google Assistant IT