สำหรับท่านที่ติดตามข่าวสารในวงการสมาร์ทโฟนมาโดยตลอด คงจะสังเกตกันได้ว่า ในปีนี้ มีสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่เปิดตัวกันอย่างมากมาย ซึ่งแต่ละรุ่น ก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป โดยแนวโน้มของสมาร์ทโฟนในปีนี้ เน้นเรื่องขนาดหน้าจอ และกล้องถ่ายรูป เป็นหลัก แม้ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนในระดับราคาที่ไม่เกินหมื่น ก็เริ่มมีสเปคที่ใกล้เคียงรุ่นเรือธงกันบ้างแล้ว อีกทั้งในช่วงหลัง มีหลายแบรนด์ที่เน้นในเรื่อง สเปคสวนทางกับราคา ซึ่งในระดับราคาไม่เกิน 10,000 บาท มีหลายรุ่นที่รองรับเครือข่าย 4G LTE และมาพร้อมกับกล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ให้เลือกซื้อกันหลายรุ่น มาดูกันดีกว่าว่า สมาร์ทโฟนที่น่าสนใจประจำช่วงปลายปี 2015 ที่ทางทีมงาน techmoblog คัดสรรมาให้แบบเน้นๆ จะมีรุ่นใดบ้าง รับรองได้ว่าจะต้องมีรุ่นใดรุ่นหนึ่งที่โดนใจท่านผู้อ่านอย่างแน่นอน
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า สมาร์ทโฟนที่มาแรงที่สุดในช่วงนี้ ก็คือ iPhone 6S และ iPhone 6S Plus ที่วางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยทั้ง 2 รุ่นนี้ ถือว่า อัปเกรดในหลายๆ ด้านเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าอย่าง iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ซึ่งทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมกับชิปเซ็ต Apple A9, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, ปรับปรุง Touch ID และตัวบอดี้ผลิตจากอะลูมิเนียมเกรด 7000 ซึ่งเป็นเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศ แข็งแกร่งที่สุดในบรรดา iPhone ทั้งหมดที่เปิดตัวมา
ส่วนขนาดหน้าจอ และความละเอียดของหน้าจอแสดงผล ยังคงเท่ากับรุ่นก่อนหน้า โดย iPhone 6S มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว ความละเอียด 1334 x 750 พิกเซล ส่วน iPhone 6S Plus มาพร้อมหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล สำหรับราคาของ iPhone 6S เริ่มต้นที่ 26,500 บาท ส่วนราคา iPhone 6S Plus เริ่มต้นที่ 30,500 บาท แพงกว่า iPhone 6 / iPhone 6 Plus ตอนเปิดตัว เนื่องจากค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงนั่นเอง
รุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล Galaxy Note กับ Samsung Galaxy Note5 ที่คนรักการขีดเขียนไม่น่าพลาด โดยรุ่นนี้ มาพร้อมกับ หน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว แบบ Super AMOLED ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล, ชิปเซ็ต Exynos 7420 แบบ Octa-Core Processor, หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และรันระบบปฏิบัติการ Android 5.1.1 (Lollipop) นอกจากนี้ ยังรองรับเซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือ และปากกา S Pen รุ่นปรับปรุง ส่วนบอดี้ตัวเครื่อง ผลิตจากโลหะอะลูมิเนียมเกรด 7000 ที่เรียกได้ว่า แข็งแรง ทนทานมากทีเดียว
ส่วนราคาของ Samsung Galaxy Note 5 อยู่ที่ 25,900 บาท
จากความสำเร็จของ Samsung Galaxy A5 กับ Samsung Galaxy A7 ที่ได้รับการตอบรับอย่างล้มหลาม ทำให้ Samsung Galaxy A8 ที่เพิ่งเผยโฉม และวางจำหน่ายในไทยไปเมื่อเร็วๆ นี้ ได้รับกระแสตอบรับที่ดีเช่นกัน
โดย Samsung Galaxy A8 มาพร้อมกับ หน้าจอแสดงผลกว้าง 5.7 นิ้ว แบบ Super AMOLED ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล, ชิปเซ็ต Exynos 5430 แบบ Octa-Core Processor, หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และรันระบบปฏิบัติการ Android 5.1.1 (Lollipop) นอกจากนี้ ยังรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และรองรับเครือข่าย 4G LTE อีกด้วย
สำหรับราคาของ Samsung Galaxy A8 อยู่ที่ 15,900 บาท
สำหรับใครที่ชื่นชอบการถ่ายรูปเซลฟี่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว น่าจะถูกอกถูกใจ Asus Zenfone Selfie กันอย่างแน่นอน โดยรุ่นนี้ มาพร้อมกับกล้องด้านหน้า ความละเอียดถึง 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชที่กล้องด้านหน้า ในขณะที่คุณสมบัติอื่นๆ ก็คุ้มค่า สมราคาเช่นกัน ทั้งหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล, ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 615 แบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 1.7 GHz, หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB หรือ 3 GB (ขึ้นอยู่กับหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง), กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ Dual-LED, รองรับเครือข่าย 4G LTE และรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด ซึ่งราคาของ Asus Zenfone Selfie อยู่ที่ 8,990 บาทเท่านั้น
ถ้าพูดถึง มือถือ RAM 4 GB หลายๆ ท่านคงจะนึกถึงแบรนด์ เอซุส อย่างแน่นอน ซึ่ง Asus Zenfone 2 นั้น มีรุ่นต่อยอดหลายรุ่นด้วยกัน และหนึ่งในนั้น ก็คือ Asus Zenfone 2 Deluxe นั่นเอง ซึ่งรุ่นนี้ โดดเด่นกันตั้งแต่ ดีไซน์ด้านหลังตัวเครื่อง ที่มีรูปทรง 3 เหลี่ยมประกอบกันมากกว่า 500 ชิ้น เพื่อสร้างพื้นผิวแบบคริสตัล ส่วนคุณสมบัติต่างๆ ก็เรียกได้ว่า น่าสนใจไม่แพ้กัน ซึ่งได้แก่ หน้าจอแสดงผลขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล, ชิปเซ็ต Intel Atom Z3580 แบบ Quad-Core Processor ความเร็ว 2.3 GHz, หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ Dual-LED นอกจากนี้ ยังรองรับเครือข่าย 4G LTE และรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดอีกด้วย โดยราคาของ Asus Zenfone 2 Deluxe อยู่ที่ 12,990 บาท
เอาใจคนรัก มือถือจอใหญ่ เลยก็ว่าได้ สำหรับ OPPO R7 Plus สมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์รุ่นใหม่ล่าสุดจาก ออปโป้ ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD (1080p) เลยทีเดียว อีกทั้ง ดีไซน์ตัวเครื่องยังดูแข็งแรง และพรีเมียม โดยมาพร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตแบบ All-Metal Unibody ซึ่งใช้วัสดุเกรดเดียวกับที่ใช้ผลิตเครื่องบินนั่นเอง อีกทั้ง คุณสมบัติที่ให้มา ยังคุ้มค่าเกินราคาเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็น หน่วยประมวลผลแบบ Octa-Core Qualcomm Snapdragon Processor, หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB, หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 32 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 128 GB, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมโหมดการถ่ายภาพ Beautify เวอร์ชัน 3.0 ที่เหมาะกับผู้ที่รักการเซลฟี่เป็นอย่างมาก, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมระบบการโฟกัสภาพแบบ Laser Autofocus ที่ทำให้การโฟกัสภาพมีความรวดเร็ว และแม่นยำมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับระบบการสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง อีกด้วย โดยราคาของ OPPO R7 Plus รุ่นนี้ อยู่ที่ 16,990 บาท
แม้จะยังไม่ได้วางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการ แต่ชื่อของ Obi Worldphone ก็เริ่มเป็นที่รู้จักกันแล้ว กับสมาร์ทโฟนของอดีตซีอีโอ Apple กับ John Sculley ซึ่งถือว่า เป็นคู่รักคู่แค้นกับ Steve Jobs เลยก็ว่าได้ โดย Obi Worldphone นั้น เปิดตัวมาทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกัน นั่นก็คือ Obi Worldphone SJ1.5 กับ Obi Worldphone SF1 ซึ่งรุ่น SF1 นั้น ถือเป็นรุ่นเรือธงของค่าย และมีราคาจำหน่ายค่อนข้างถูก โดยมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD, ชิปเซ็ตแบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 1.5 GHz, RAM 2 GB/ROM 16 GB, RAM 3 GB/ROM 32 GB, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, แบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh และรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แว่วๆ มาว่า รุ่นท็อปนี้ จะมีราคาจำหน่ายเพียง 7,290 บาทเท่านั้น
ปัจจุบัน มือถือที่รองรับเครือข่าย 4G LTE ไม่จำเป็นต้องมีจ่ายแพงอีกต่อไป ในช่วงระดับราคาไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท มีให้เลือกกันหลายรุ่นเลยทีเดียว อย่างเช่น Lenovo A7000 Plus รุ่นนี้ ซึ่งถือว่า เป็นรุ่นสานต่อ ที่ได้รับการอัปเกรดสเปคให้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง Lenovo A7000 แต่สิ่งที่ยังคงเหมือนเดิมก็คือ ราคาค่าตัวที่จับต้องได้ โดย Lenovo A7000 Plus รุ่นนี้ มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ซึ่งยังคงขนาดเท่าเดิม แต่อัปเกรดความละเอียดของหน้าจอ จากเดิม 1280 x 720 พิกเซล เป็นระดับ Full HD 1920 x 1080 พิกเซลแล้ว ในขณะที่หน่วยประมวลผล ยังคงเร็วและแรงไม่แพ้รุ่นก่อนหน้า โดยมาพร้อมกับหน่วยประมวลผลแบบ Octa-Core Processor (MediaTek MT6752 chipset) ความเร็ว 1.7 GHz, หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล (อัปเกรดจาก 8 ล้านพิกเซล), แบตเตอรี่ขนาด 2900 mAh, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และรันระบบปฏิบัติการ Android 5.0 (Lollipop) พร้อมระบบเสียงแบบ Dolby Atmos ที่ให้เสียงกระหึ่มรอบทิศทางอีกด้วย
สำหรับราคาของ Lenovo A7000 Plus อยู่ที่ 6,290 บาท
vivo Y37 สมาร์ทโฟนดีไซน์บางเฉียบ ราคาไม่แพง และคุณภาพเสียงระดับ Hi-Fi โดยรุ่นนี้ มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล, หน่วยประมวลผลแบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 1.4 GHz, RAM 2 GB, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และรองรับเครือข่าย 4G LTE อีกด้วย โดยราคาของ vivo Y37 อยู่ที่ 9,990 บาท
สำหรับรายชื่อสมาร์ทโฟนข้างต้นนี้ ทางทีมงานไม่ได้ทำการจัดอันดับว่า รุ่นใดดีที่สุด เนื่องจากแต่ละรุ่น ก็มีจุดขายที่น่าสนใจไม่แพ้กัน อีกทั้งผู้ใช้แต่ละท่านก็มีพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนที่แตกต่างกันไป บางท่านอาจเน้นที่แบรนด์, บางท่านก็เน้นเรื่องราคาเป็นหลัก หรือบางท่าน เลือกซื้อเพราะกล้องความละเอียดสูง เป็นต้น โดยในคราวหน้า ทีมงาน techmoblog จะกลับมาอัปเดต สมาร์ทโฟนที่น่าสนใจ กันอีกครั้ง อย่าลืมติดตามกันนะครับ
---------------------------------------
บทความโดย : techmoblog.com
Update : 23/11/2015
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |