[Kiwi scope] ไขปริศนาชื่อ The new iPad ทำไม การตั้งชื่อ (iPad) ว่า "The new iPad" อาจจะทำให้เราได้เห็น "iPad Mini"?? by Kiwi @techmoblog

"ในวันนี้ขอเชิญพบกับทุกท่านพบกับ ipad รุ่นใหม่ ที่ทุกท่านรอคอย และ ชื่อของมันก็คือ ……… iPad รุ่นใหม่??? (The new iPad)"

กลับมาอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนานกับ Kiwi Scope บทความไอทีเชิงวิเคราะห์จาก techmoblog.com นะครับ ผมขอย้อนกลับไปวันที่ 7 มีนาคม ณ วันเปิดตัว iPad 3 หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า "The new iPad" ก่อนหน้านั้น สื่อมวลชนหลายสำนักต่างก็มีการคาดเดาชื่อของ iPad รุ่นใหม่กันไปต่างๆ นานา ก่อนงานเปิดตัว มีกระแสว่า iPad รุ่นใหม่น่าจะไม่ได้ชื่อ iPad 3 แต่น่าจะเป็น "iPad HD" หลังจากเว็บไซต์แรกมีการเปิดเผยไปแล้ว เว็บไซต์อีกชื่อดังอีกแห่งหนึ่ง ก็ออกมายืนยันว่า ได้รับข่าวเหมือนกันโดยชื่อ iPad ใหม่คือ iPad HD ซึ่งหมายถึง iPad ที่มีหน้าจอแบบ Retina Display ที่มีความละเอียดมากขึ้นนั่นเอง หลังจบงานปรากฎว่า Tim Cook ประกาศว่า iPad รุ่นใหม่คือ "The New ipad" ทำให้สำนักข่าวหน้าแตกไปตามๆ กัน จากเรื่องจริงเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ฝรั่งก็ลอกกันเป็นนะ :P

"The new iPad" ชื่อนั้นสำคัญไฉน?

หลายคนอาจจะสงสัยถึงขนาดบางคนมีการพูดว่า Apple หมดมุขที่จะตั้งชื่อผลิตภัณฑ์แล้วหรืออย่างไร บางคนไปไกลถึงขนาดว่าถ้า สตีฟ จ๊อบส์ (Steve Jobs) ยังอยู่ไม่น่าจะตั้งชื่อแบบนี้ได้ แต่ประเด็นที่น่าคิดจริงๆ ก็คือ "ถ้าเกิดการตั้งชื่อนี้มีเหตุผล และ ที่มา หรือเป็นสิ่งที่ Apple ตั้งใจไว้แล้วหล่ะ จริงๆแล้วเหตุผลนั้นคืออะไร?" รู้สึกว่าเริ่มเหมือนนิยายสืบสวนสอบสวนแล้วใช่มั้ยครับ ^^

ประวัติศาสตร์การตั้งชื่อ สินค้าของ Apple

จากหลักฐานแวดล้อมในอดีต :P ถ้าสังเกตกันให้ดี ที่ผ่านมาสินค้าของ Apple ทุกชนิดจะไม่มีการตั้งชื่อ Series ตามหลัง ยกตัวอย่างเช่น MacBook เราจะไม่ได้เรียกว่า Macbook 1, Macbook 2, Macbook 3G เช่นเดียวกัน เราไม่ได้เรียก iPod 1, iPod 2 เราเรียกแค่ Macbook Pro, Macbook Air, iPod Touch, iPod nano บางคนถ้ากลัวสับสนเราก็มักจะเรียกแค่ Macbook (ตามด้วยชื่อปีที่ออก)

เหตุผลหลักที่ Apple ไม่ตั้งชื่อซีรีย์ตามหลังเป็นตัวเลข เนื่องจากเมื่อมีการแตกไลน์สินค้าเป็น MacBook Air, Macbook Pro การตั้งชื่อตามด้วยตัวเลขอาจจะทำให้ลูกค้าสับสน และสังเกตให้ดีว่า มักจะเป็นที่มาของการโละสินค้าหรือลดราคาสินค้าทันทีที่มีรุ่นใหม่ออกมา ถึงตอนนี้ผมเชื่อหลายคนคงพอจะนึกตามสมมติฐานที่ผมตั้งไว้ได้แล้วนะครับ เป็นไปได้หรือไม่ว่า เหตุผลที่ iPad รุ่นใหม่ ไม่ได้ใช้ชื่อ iPad 3 อาจจะเป็นเพราะว่า Apple เตรียมจะออกผลิตภัณฑ์ Segment ใหม่ (จึงมีปรับการตั้งชื่อให้เหมือนกับสินค้าอื่นๆ ที่มีการแตก Segment ออกไป)

ทำไม iPad mini หรือ iPad รุ่นอื่นถึงอาจจะจำเป็นสำหรับ Apple?

หากมองในแง่การแข่งขันผมเชื่อว่า iPad รุ่นอื่นอาจจะมีความจำเป็นต่อการแข่งขันของ Apple โดยเหตุผลหลักๆ ก็คือ

1. ช่องว่างของราคา - ถึงแม้ตอนเปิดตัว iPad 1 นั้น Apple จะทำให้ทุกคนประหลาดใจด้วยการตั้งสินค้าราคาที่ไม่สูงมากนัก จนทำให้ยอดขาย iPad นั้นสูงแบบถล่มทลาย แต่ ณ ปัจจุบันต้องบอกว่า ราคา iPad มักจะเป็นราคามาตรฐานที่คู่แข่งใช้ตั้งราคาสินค้าแข่งอยู่เสมอ (iPad มีราคาเริ่มต้นที่ 499 เหรียญ) การเปิดตัวของ Kindle Fire จากค่าย Amazon ที่ราคา 199 เหรียญ ที่มียอด Pre-order ถึง 250,000 เครื่องภายใน 1 อาทิตย์ คงต้องทำให้ผู้บริหารแอปเปิ้ลออกมาทบทวนแนวคิดเกี่ยวกับ iPad mini ไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว

2. ความสะดวกในการพกพาของ iPad ยังด้อยกว่า Tablet ขนาดเล็ก - ถึงแม้ สตีฟ จ๊อบส์ (Steve Jobs) จะบอกว่าเราสามารถใช้งาน ไอแพด (iPad) ได้ด้วยการถือมือเดียว แต่คนที่ได้ลองใช้จริงๆ ก็คงต้องบอกว่า จะถือได้ก็คงต้องนั่งอยู่กับที่ไม่ใช่ยืนถือ ซึ่งถ้าพูดถึงความสะดวกในการพกพา Tablet ขนาดเล็กก็ค่อนข้างที่จะตอบโจทย์ได้ดีกว่า iPad ซึ่งจุดนี้เองที่ Samsung นำมาใช้เป็นจุดขายของ Galaxy tab 7" ซึ่งแม้ยอดขายจะไม่เท่ากับ iPad แต่ก็ถือได้ว่าเป็น Tablet ที่ประสบความสำเร็จไม่น้อยหน้า iPad เลยทีเดียว การชูจุดเด่นในเรื่อง Mobility ที่สามารถพกพา ใส่กระเป๋ากางเกงหรือ ยืนอ่านบนรถโดยสารดูเหมือนจะเป็นจุดขายของ Tablet ขนาดนี้

3. ประสิทธิภาพความสามารถของเครื่อง vs ความสะดวกในการพกพา - จุดเด่นที่มือถือ หรือ Android Tablet นำมาใช้เสมอในการแข่งขันกับ Apple คือ เรื่องของประสิทธิภาพของตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น CPU, การ์ดแสดงผล GPU หรือ หน่วยความจำที่สูงกว่า ถือเป็นไฟท์บังคับที่ทำให้ Apple เมื่อมีการออกสินค้าใหม่ ต้องอัพเกรดคุณภาพของ Hardware ควบคู่ไปด้วย ในปัจจุบัน ปัญหาที่ทุกคนพบเวลาใช้งาน Tablet คือเรื่องของ Battery เครื่องยิ่งแรงยิ่งกินไฟ ซึ่งขนาดแบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้นย่อมส่งผลต่อขนาดที่เพิ่มขึ้น หรือน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นโดยรวมของ Tablet (iPad ใหม่ มีแบตเตอรีที่มีความจุมากถึง 11,666 mAh เพิ่มขึ้นจากเดิม 65% น้ำหนักเพิ่มขึ้นจาก iPad 2 ประมาณ 51 กรัม หนัก 662 กรัม และหนากว่าเดิม 0.6 มม) จากการแข่งขันด้านประสิทธิภาพที่ต้องมากขึ้น ยิ่งเพิ่มขนาดและน้ำหนัก ทำให้ความสะดวกในการพกพายิ่งลดลง ตรงนี้น่าจะเป็นโจทย์สำคัญที่ทาง Apple น่าจะคำนึงถึงอยู่เช่นกัน

แต่ สตีฟ จ๊อบส์ (Steve Jobs) เคยบอกว่าจะไม่ทำ "iPad mini" นะ!!!

"The reason we [won't] make a 7-inch Tablet isn’t because we don’t want to hit [a lower] price point, it’s because we think the screen is too small to express the software." - Steve Jobs

ผมแปลคำพูดของ สตีฟ จ๊อบส์ (Steve Jobs) เกี่ยวกับเรื่องนี้แบบสั้นๆ คือ สาเหตุที่ Apple ไม่ทำ Tablet 7" เพราะคิดว่าหน้าจอมันเล็กเกินกว่าที่จะใช้งาน Application ได้อย่างเต็มความสามารถ จริงๆ แล้ว ปัจจุบันนักพัฒนา Application บน Android จะประสบกับอาการปวดหัวในการออกแบบ Application ให้รองรับขนาดหน้าจอที่ต่างกัน ข้อดีของ iPad ที่สำคัญคือมันมีขนาดเดียวทำให้ง่ายต่อการออกแบบและพัฒนา

ส่วนความเห็นของ สตีฟ จ๊อบส์ (Steve Jobs) ที่คิดว่าหน้าจอมันมีขนาดเล็กไป สำหรับ Application จริงๆ ก็ขึ้นอยู่กับว่า Application ที่ว่านั้นคืออะไรและเราเอาไปใช้งานที่ไหน จะว่าไป MacBook Air 11 นิ้ว ก็ดูจะเล็กเกินไปสำหรับการใช้งาน แต่ถ้าเทียบกับความสะดวกสบายในการพกพาก็ต้องบอกว่าตอบโจทย์มากกว่าขนาดหน้าจอที่ใหญ่เช่นกัน

แต่หลายฝ่ายยืนยัน iPad mini มาแน่ครับ

ขณะที่ผมดองต้นฉบับนี้อยู่ -_-" ก็มีการให้ข่าว (ที่ไม่เปิดเผยผู้ให้ข่าวเช่นเคย) จาก Samsung ที่เป็นบริษัทที่ผลิตชิ้นส่วนให้กับ Apple ว่า Apple นั้นแอบซุ่มทำ iPad ขนาด 7.85 นิ้วอยู่ขอนอกเริ่องนิดนึงนะครับ ส่วนตัวตอนแรกผมก็มั่นใจว่า Apple น่าจะทำแน่ครับ iPad mini แต่พอเริ่มมีข่าวลือมากๆ เข้าก็เริ่มรู้สึกว่าปกติ Apple จะเก็บความลับได้เป็นอย่างดี แต่ทำไมคราวนี้มาแปลกเหมือนมีข่าวออกมามากไป ไม่รู้จะคิดมากไปหรือเปล่านะครับ ^^

ปลายปีนี้เราจะได้เจอกับ "The New iPhone mini" หรือไม่?

ผมเชื่อว่ายังไม่เห็นครับ (นอกจาก iPhone mini ปลอม Made in china) เพราะโจทย์ของ iPhone กับ iPad นั้น ค่อนข้างต่างกัน ผมยังเชื่อในอุดมการณ์ และความภูมิใจในค่านิยมในการสร้างสินค้าชั้นดีของ Apple ครับว่า จะไม่ทำสินค้ามาเพื่อขายเพียงอย่างเดียว ช่องว่างที่แอปเปิ้ลเข้าไปทำ น่าจะต้องมีคุณค่าหรือให้ประโยชน์กับผู้ใช้มากพอที่จะแตกออกมาทำ สำหรับผม ผมคิดว่า iPhone mini จะทำให้คุณค่าของ iPhone ลดลง ซึ่งต่างจาก iPad mini ที่น่าจะมาเป็น สินค้าที่เติมช่องว่างระหว่าง iPhone กับ New iPad ได้ การเพิ่มคุณสมบัติแล้วตั้งชื่อใหม่เหมือนกรณี iPad เช่น iPhone HD หรือ อะไรก็ตามแต่ คงจะทำให้ผู้ใช้สับสนและในมุมมองทางธุรกิจ iPhone ก็นับว่าเป็นสินค้าหลักของ Apple ก็คงจะเป็นการเสี่ยงเกินไปที่จะแตกไลน์สำหรับสินค้าหลักที่เป็นชีพจรของบริษัท ดังนั้นผมคิดว่าจะไม่เจอและหวังว่าจะไม่เจอด้วยครับ

บทสรุปเรื่องราว

จากพาดหัวผมคิดว่าชื่อ New ipad สื่อความหมายว่า Apple น่าจะแตก ผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นสมมุติฐานที่ผมตั้งมาจากการดูผลิตภัณฑ์อื่นของ Apple ที่ไม่มีการต่อท้ายด้วยตัวเลข ซึ่งที่ผ่านมาก็เป็นเช่นนั้น ต่อมาผมจึงนำเสนอเหตุผลว่า ทำไม ณ ปัจจุบันน่าจะถึงเวลา หรือมีปัจจัยอะไรที่ทำให้เห็นว่าอาจจะเป็นแรงผลักดันให้ Apple น่าจะคิดเกี่ยวกับการแตกไลน์ iPad หรือ The new iPad (จุดด้อยเรื่อง Mobility, ความสำเร็จของตลาด Tablet android ขนาดเล็ก) สิ่งที่น่าเป็นห่วงเกี่ยวกับการแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ของ Apple ผมคิดว่าไม่ได้อยู่ว่าจะมีการแตกไลน์หรือไม่ แต่อยู่ที่การระมัดระวังในการแตกผลิตภัณฑ์ที่สมควรเข้าไปทำจริงๆ โดยไม่ได้ดูแค่เรื่องของการแข่งขันอย่างเดียว แต่ดูในเรื่องของคุณค่าที่ลูกค้าควรจะได้รับ

ก่อนเขียนบทความนี้ผมพยายามหาบทความที่แย้งความคิด ว่า iPad mini ไม่น่าจะมี เพื่อจะได้นำเสนออีกมุมนึงที่ขัดแย้งกับความคิดของตัวเอง แต่หลังจากอ่านหลายที่แล้วผมรู้สึกว่าการให้เหตุผลยังไม่หนักแน่นพอ เช่น สตีฟ จ๊อบส์ คงไม่อยากให้ทำ (อันนี้จริงครับ แต่ในอดีตก็มีหลายอย่างที่ จ๊อบส์ คัดค้านแต่ Apple ก็ทำครับ เช่น การ อนุญาต ให้ Third party พัฒนา App บน App store เป็นต้น) หรือ ผู้บริหาร Apple ไม่เคยยอมรับว่าจะทำ iPad mini (ต่อให้ทำจริงก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องยอมรับครับ) หรือการมองว่า การทำ Tablet 7 นิ้วจะเหมือนเป็นการเลียนแบบ Android ที่ Apple เกลียดนักหนา (ถ้าทำให้ดีกว่าได้น่าจะเป็นการฆ่า Android 7 นิ้วมากกว่าครับ) ผมเห็นเหตุผลเดียวที่จะทำให้ Apple ไม่ทำคือ การกินส่วนแบ่งของ The new iPad ที่ราคาแพงกว่า (สินค้า ทดแทน) แต่เราอาจจะเห็นคนที่ซื้อ iPad ทั้งเล็ก และ ใหญ่ แถม iPhone อีกเครื่องก็น่าจะยังเห็นอยู่นะครับ และ ที่สำคัญผมคิดว่า Apple ไม่สนใจเรื่องการแย่งยอดขายของผลิตภัณฑ์สักเท่าไหร่ ดูได้จาก iPod Touch ซึ่งตอนนี้ก็โดน iPhone ขนาดเล็ก 8 GB กินแทบจะเรียบแล้วครับ สิ่งสำคัญจึงน่าจะเป็นการเติมช่องว่างความต้องการของลูกค้ามากกว่า ซึ่ง สตีฟ จ๊อบส์ (Steve Jobs) เองก็เคยพูดไว้ว่า การกลัวการกินส่วนแบ่งตลาดของตัวเองเป็นเรื่องไม่มีเหตุผล เพราะถึงแม้เราไม่ทำ ถ้าเป็นความต้องการของลูกค้า คู่แข่งก็ต้องทำออกมาอยู่ดี

และถึงตอนนี้ผมคิดว่า Tablet ขนาดเล็กก็พิสูจน์ คุณค่าของตัวเองได้ในระดับที่ก็คงต้องยอมรับครับ และบริษัทอย่าง Apple เองก็ใช้ว่าจะเข้ามาทีหลังแล้วทำให้ดีกว่าไม่ได้ ผมเชื่อว่า สตีฟ จ๊อบส์ (Steve Jobs) ยังอยู่เราคงได้ร้อง อุ๊แม่เจ้า!! ถ้ามีการเปิดตัว iPad mini จริง ผมก็หวังว่าถ้ามีการซุ่มทำจริงเราจะได้เห็นผลิตภัณฑ์ที่ดียิ่งขึ้น มากกว่าแค่ลดขนาดหน้าจอลง แค่นั้น

ในไทยเองเอง Tablet ขนาดเล็กก็ไม่น้อยหน้านะครับ ตอนงานเปิดตัว Thailand Mobile Expo ผมตกใจมากครับตอนเปิดตัว Samsung Galaxy Tab 7.7 เพราะคนไปมุงดู Samsung Galaxy Tab 7.7 นิ้ว กันมากแบบมองไม่เห็นเวทีกันเลยทีเดียว หลังจากแหวกคนเข้าไปดูถึงได้รู้ว่า มาดู ณเดชณ์กันนี่เอง :D แต่ Product ก็คงมีคนมาดูด้วยนะครับแต่ตอนนั้นครึ่งนึงน่าจะมากรี๊ด ณเดชน์ครับ :P

สุดท้ายขอจบบทความด้วยประโยคของ สตีฟ จ๊อบส์ (Steve Jobs) นั่นคือ

"Our goal is to make the best devices in the world, not to be the biggest. - เป้าหมายของเราคือการเป็นบริษัทสร้างผลิตภัณฑ์ (อุปกรณ์) ที่ดีที่สุด ไม่ใช่เป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุด"

ผมเชื่อและหวังว่าปลายปีถ้าเราได้เห็น iPad mini มันจะเป็น Product ที่ดีแตกต่าง (แต่ถ้าเราไม่ได้เห็นก็อาจจะเป็นเพราะว่า Apple ยังไม่เห็นว่าจะสร้างความแตกต่างได้) ขอให้พี่ จ๊อบส์ ไปสู่สุขคติและขอขอบคุณที่ช่วยสร้างมาตรฐานสินค้าไอทีที่ทำให้เราได้ใช้ชีวิตที่สะดวกสบายขึ้นครับ

หลังจากอ่านบทความแล้วคิดอย่างไรกันครับ ผมคิดว่า iPad mini อาจจะได้เห็นนะครับ แล้วทุกท่านคิดอย่างไร Comment แชร์ความคิดเห็นของคุณได้นะครับมาแลกเปลี่ยนกันครับ

หมายเหตุ : ผมต้องการให้เผยแพร่บทความนี้เช่นกัน ถ้าท่านใดเห็นว่าจะมีประโยชน์ต่อผู้อื่น แต่ขอความกรุณา Link กลับมาที่ต้นฉบับ เพื่อเป็นกำลังใจกับผมและทีมงานด้วยนะครับ และขอความร่วมมือช่วยไม่ดัดแปลงแก้ไขเนื้อหาหรือลิงค์ต่างๆ ในบทความด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ

Update : 05/03/2018

Apple Steve Jobs iPad 3 iPad Mini the new ipad iphone mini ipad hd