เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เหล่ายักษ์ใหญ่ในซิลิคอนวัลเลย์มีการเคลื่อนไหว หลังได้รับเชิญให้เข้าพบ Donal Trump ว่าที่ประธานาธิบดีคนถัดไปแห่งสหรัฐฯ โดยผู้ที่ได้รับเชิญร่วมเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย ต่างก็เป็นระดับท็อปของวงการไอทีทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น Sheryl Sandberg จาก Facebook, Jeff Bezos จาก Amazon, Larry Page จาก Google, Satya Nadella จาก Microsoft รวมไปถึง Tim Cook ซีอีโอจาก Apple
Tim Cook และ Hillary Clinton ภายในงานระดมทุนเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
ซึ่งจากเหตุการณ์ที่ Tim Cook ได้ไปปรากฏตัวด้วยนี่เอง ได้กลายมาเป็นประเด็นพูดคุยวิพากษ์วิจารณ์แตกต่างกันออกไปภายในองค์กร Apple เนื่องจากหากพิจารณาดูแล้ว Tim Cook อาจไม่ได้เป็นผู้สนับสนุน Trump ซักเท่าไหร่ และมีท่าทีเอนเอียงไปที่ Hillary Clinton มากกว่า เพราะก่อนหน้านี้ก็ตัวเขาก็เคยร่วมระดมทุนกับ Clinton มาแล้ว นอกจากนี้ Trump เองก็เคยเรียกร้องให้มีการบอยคอตต์ผลิตภัณฑ์แอปเปิลด้วย แต่มีหนึ่งหัวข้อจากพนักงาน Apple ที่น่าสนใจซึ่งได้แสดงความเห็นไว้ภายในเว็บไซต์องค์กรว่า มันคุ้มค่าจริงหรือกับการที่บริษัทจะเข้าไปมีส่วนร่วมกับ Trump และรัฐบาลแบบนี้?
ทาง Tim Cook ก็ได้ตอบกลับมาด้วยใจความว่า ตัวเขาเองเชื่อว่าการนั่งดูอยู่ภายนอกนั้น ไม่ใช่หนทางที่นำไปสู่ความสำเร็จเท่าไหร่นัก โดยวิธีที่คุณสามารถจะเข้าไปมีอิทธิพลต่อเรื่องราวเหล่านี้ได้ คือการเข้าร่วมต่อสู้ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นประเทศนี้ (สหรัฐฯ) หรือที่สหภาพยุโรป หรือในประเทศจีน Apple ก็จะเข้าร่วมไปมีส่วนร่วมด้วย และ Apple จะให้ความร่วมมือแม้ว่าพวกเขาจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ตาม ซึ่งตัวเขาเองคิดว่าสิ่งนี้สำคัญอย่างยิ่ง เพราะคุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ได้ด้วยการบ่นเพียงหรือโวยวายเพียงอย่างเดียว แต่คุณต้องเปลี่ยนแปลงด้วยการแสดงให้ทุกคนได้เห็นว่า ทำไมวิธีที่คุณเลือกจึงเป็นหนทางที่ดีที่สุด ซึ่งหากมองจากหลายๆ มุมแล้ว มันเป็นการดีเบททางด้านความคิดซะมากกว่า
Tim Cook ยังถูกสอบถามด้วยว่า การพบ Donald Trump มีความสำคัญเพียงใดต่อ Apple กับการที่จะเข้าไปร่วมมือกับทางรัฐบาล ซึ่งตัวเขาเองก็ได้ตอบกลับด้วยใจความว่า จริงๆ แล้วมันมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะ "รัฐบาลมีผลกระทบต่อความสามารถของ Apple ในสิ่งที่พวกเรากำลังทำอยู่ได้ ซึ่งสิ่งที่ Apple กำลังทำอยู่นั้นก็คือการพุ่งเป้าไปในเรื่องของนโยบาย โดยสิ่งสำคัญที่ Apple ให้ความสนใจคือเรื่องของ นโยบายความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย รวมไปถึงการศึกษา นอกจากนี้ Apple ยังสนับสนุนในเรื่องของสิทธิมนุษยชนของทุกคน และพยายามที่จะขยายความหมายของสิทธิมนุษยชนให้กว้างยิ่งขึ้น Apple ยังให้ความสนใจในเรื่องของสิ่งแวดล้อม และการต่อสู้กับภาวะโลกร้อนอย่างจริงจัง ในประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมนั้น Apple ได้เริ่มปฏิบัติแล้วด้วยการดำเนินธุรกิจด้วยพลังงานทดแทนแบบ 100% โดยพวกเขาจะยังคงยืนหยัดในสิ่งที่เชื่อ ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญของตัวตน Apple และพวกเราจะยังคงดำปฏิบัติเช่นนี้ต่อไป" Tim Cook กล่าว
อย่างไรก็ดี แม้ว่า Tim Cook และ Trump อาจมีประเด็นกันมาก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการย้ายถิ่นฐานการผลิตและประกอบ iPhone จากประเทศจีนให้มาอยู่ภายในสหรัฐฯ เพียงที่เดียว หรือการเรียกร้องบอยคอตต์สินค้า Apple ก็ตาม แต่การที่ Tim Cook ยอมร่วมมือกับ Trump ก็ยิ่งทำให้น่าสนใจว่า สุดท้ายแล้วอนาคตของ Apple จะดำเนินธุรกิจในทิศทางใด รวมถึงยักษ์ใหญ่แห่งวงการไอทีรายอื่นจะมีการเปลี่ยนแปลงไปด้วยหรือไม่
---------------------------------------
ที่มา : Tech Crunch, Business Insider, 9To5Mac
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com
Update : 21/12/2016
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |