สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับ กลับมาพบกับทีมงาน TechmoBlog กับข่าวสารในวงการไอทีที่น่าสนใจกันอีกครั้งนะครับ หลายคนที่ติดตามข่าวสารในวงการโทรคมนาคมของไทยจะเห็นได้ว่าหลังจากที่จบการประมูลคลื่นความถี่ของยักษ์ใหญ่วงการสื่อสารผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือก็ต่างออกมาพัฒนาเทคโนดลยีการรับส่งข้อมูลกันเพื่อให้เกิดประโยชนืสูงสุดกับคลื่นความถี่ที่ตัวเองประมูลได้มา ปัจจุบันน่าจะพอพูดได้ว่าในเรื่องของความเร็วอินเตอร์เน็ทบนมือถือนั้นเรามาสู่สู่ยุค 4G กันแล้ว ซึ่งล่าสุดเทคโนโลยีการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนสมาร์ทโฟนในประเทศไทยก็ได้พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น และกำลังเข้าสู่ยุค 4.5G ที่มีความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุดที่ 1 Gbps โดยเครือข่ายผู้ให้บริการในบ้านเราที่เปิดให้ใช้งานเทคโนโลยี 4.5G นี้แล้วก็มี 2 ค่ายใหญ่ด้วยกัน คือ TrueMove H และ AIS ดังนั้น วันนี้ทีมงาน TechmoBlog จึงได้ทำการเปรียบเทียบเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังระบบ 4.5G ของทั้งสองเครือข่าย พร้อมทั้งความครอบคลุม มาให้ทุกท่านได้รับชมกัน จะมีรายละเอียดอย่างไรบ้างนั้น ติดตามชมไปพร้อมกันได้เลยครับ
4.5G คืออะไร?
เชื่อว่าหลายๆ ท่านคงจะเคยได้ยินคำว่า 3G หรือ 4G ผ่านหูกันมาบ้างแล้ว ซึ่งในปัจจุบันนี้ผู้ใช้ในประเทศไทยกำลังอยู่ในยุคของ 4G ที่สมาร์ทโฟนสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ตลอดเวลา และมีความเร็วในการดาวน์โหลดที่สูงสุดถึง 100 Mbps แต่ยุคสมัยกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปด้วยการเข้าสู่ยุคของระบบ 4.5G ที่เพิ่มความเร็วในการดาวน์โหลดข้อมูลได้สูงสุดถึง 1 Gbps ซึ่งการมีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเช่นนี้จะส่งผลถึงการปรับเปลี่ยนการใช้งานบางอย่างของผู้ใช้ไปโดยสิ้นเชิง เช่น การสตรีมมิ่งวิดีโอความละเอียดสูงระดับ 4K UHD, การโทรศัพท์แบบเห็นหน้ากัน (Video Call), การประชุมผ่านทางโทรศัพท์ หรือการรับชม Virtual Reality ได้ในทุกๆ ที่ ก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นกว่าเดิมอย่างมาก
เทคโนโลยี 4.5G นี้เป็นจุดกึ่งกลางระหว่างที่กำลังจะเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุค 5G ที่ความเร็วของการใช้งานอินเทอร์เน็ตจะพุ่งสูงขึ้นไปถึงระดับ 10 Gbps ในภาพรวม 4.5G จะเป็นการทำงานบนพื้นฐานของเทคโนโลยี 3G หรือ 4G เดิมแต่จะเพิ่มเทคโนโลยีที่ช่วยให้มีการรับ-ส่งข้อมูลได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน หรือรับชม Content ต่างๆ ได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยในขณะนี้เครือข่ายที่เปิดให้บริการ 4.5G มีอยู่สองเจ้าในไทย คือ TrueMove H และ AIS โดยแต่ละค่ายนั้นก็มีความแตกต่างทั้งในด้านของจำนวนคลื่นที่ถือสัมปทานอยู่ รวมถึงเทคโนโลยีที่ใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพไม่ว่าจะเป็นการรวมคลื่น (CA) เหลือการเพิ่มความกว้างของช่องทางในการรับส่งข้อมูล ซึ่งมีผลต่อประสิทธิภาพการให้บริการของผู้ให้บริการแต่ละเจ้า
เปรียบเทียบเทคโนโลยี 4.5G จาก TrueMove H และ AIS
ก่อนที่จะไปรับชมการเปรียบเทียบด้านการใช้งาน และการให้บริการทั้งหมด เรามาดูจุดเด่นเบื้องต้นของเทคโนโลยี 4.5G จากทั้งสองค่ายกันก่อนว่ามีรายละเอียดอย่างไรบ้าง
เทคโนโลยี 4.5G ของ TrueMove H
เทคโนโลยี 4T4R (4 Transmit 4 Receiver) - เทคโนโลยีนี้เป็นการ รับ-ส่ง ข้อมูลแบบ 4 ช่องทาง (จากเดิม 2 ช่องทาง) ในเวลาเดียวกันของสถานีฐาน รับ-ส่ง ข้อมูล ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพการ รับ-ส่ง ข้อมูล ทั้งดาวน์โหลด และอัปโหลดได้เร็วกว่า 4G เดิมถึง 3 เท่า
เทคโนโลยี Download MIMO 4x4 - เเทคโนโลยีการ รับ-ส่ง ข้อมูล ที่จะช่วยเพิ่มความสามารถในการรับส่งสัญญานโดยการเพิ่มเสารับและส่งสัญญานเพื่อชดเชยคลื่นที่เกิดการสูญเสียระหว่างทางซึ่งจะทำให้สามารถส่งสัญญานได้มากและดีขึ้น
เทคโนโลยี CA (Carrier Aggregation) - เทคโนโลยีการรวมคลื่นความถี่ทำให้เครื่องรับจับสัญญาณได้หลายคลื่นทำให้มีแบนด์วิธมากขึ้นและ รับ-ส่ง ได้ดีขึ้น
เทคโนโลยี Inter Site Carrier Aggregation - เทคโนโลยีนี้เป็นการพัฒนาต่อยอดมาจาก CA โดยจะเป็นการรวมคลื่นความถี่จากสถานีฐานที่ต่างกัน เพื่อให้การใช้ครอบคลุมในทุกพื้นที่
เทคโนโลยี 4.5G ของ AIS
เทคโนโลยี Download Modulation 256QAM/Upload Download 64QAM - เทคโนโลยีที่เพิ่มประสิทธิภาพในการรับส่งข้อมูลจำนวนมหาศาล ที่พัฒนามาจาก 64 QAM ทำให้เพิ่มขีดความสามารถในการดาวน์โหลดมากขึ้นถึง 30% เมื่อเทียบกับ 4G ปกติ
เทคโนโลยี Download MIMO 4x4 - เทคโนโลยีการ รับ-ส่ง ข้อมูล ที่จะช่วยเพิ่มความสามารถในการรับส่งสัญญานโดยการเพิ่มเสารับและส่งสัญญานเพื่อชดเชยคลื่นที่เกิดการสูญเสียระหว่างทางซึ่งจะทำให้สามารถส่งสัญญานได้มากและดีขึ้น
เทคโนโลยี CA (Carrier Aggregation) - เทคโนโลยีการรวมคลื่นความถี่ทำให้เครื่องรับจับสัญญาณได้หลายคลื่นทำให้มีแบนด์วิธมากขึ้นและ รับ-ส่ง ได้ดีขึ้น
เทคโนโลยี LTE-U/LAA (LTE-Unlicensed/License Assisted Access) - เทคโนโลยีนี้เป็นการรวมคลื่นความถี่ปัจจุบัน (ที่ได้รับอนุญาต) เข้ากับคลื่นความถี่สาธารณะ ทำให้ รับ-ส่ง ข้อมูลเร็วกว่าเครือข่าย 4G ถึง 2 เท่า
จากรายละเอียดของการใช้งานเทคโนโลยีข้างต้นจะเห็นได้ว่าทั้งสองค่ายใช้งานเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกัน แต่เมื่อพิจารณาข้อมูลเชิงลึกในด้านการให้บริการ และเทคโนโลยีทั้งหมดนั้น สามารถสรุปผลออกมาได้ตามตารางดังนี้
*หมายเหตุ - ข้อมูลพื้นที่การให้บริการในประเทศไทย เป็นข้อมูลจากเว็บไซต์ TrueMove H และ AIS ซึ่งเป็นพื้นที่ให้บริการ 4G/3G เท่านั้น
เราจะมาลองมาวิเคราะห์แยกออกเป็น 2 ส่วนกันนะครับ โดยดูในเรื่องของประสิทธิภาพในการให้บริการ และ ความครอบคลุมของพื้นที่ในการให้บริการของทั้ง 2 เจ้ากันว่าจะแตกต่างกันอย่างไร
ประสิทธิภาพในการให้บริการ
ถ้าดูจากตารางเปรียบเทียบเทคโนโลยีจะเห็นว่าทั้ง 2 ค่ายมีเทคโนโลยีที่ใกล้เคียงกันแต่ TrueMove H จะมีจำนวนคลื่นความถี่ที่มากกว่า AIS ซึ่และมีจำนวน Bandwidth ที่เยอะกว่าในส่วนของเทคโนโลยีการรวมคลื่นสัญญาณ (Carrier Aggregation) ของ TrueMove H สามารถรวมได้ถึง 3 คลื่นความถี่ 3CA ขณะที่ AIS มีเพียง 2 คลื่นความถี่ 2CA เท่านั้น ดังนั้นถ้ามองในส่วนของเทคโนโลยีพื้นฐานอาจจะยังไม่แตกต่างกันมากแต่ถ้ามองถึงจำนวนคลื่นถือว่า Truemove-H ยังได้เปรียบในส่วนนี้
ความครอบคลุมในการให้บริการ
(ภาพแผนที่แสดงพื้นที่การให้บริการ 4G ของ TrueMove H - สีแดง และ AIS - สีเขียวเข้ม)
ทั้ง 2 ค่ายแสดงข้อมุลพื้นที่ให้บริการ 4G/3G ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัด ซึ่งถ้ามองจากแผนภาพจำนวนพื้นที่การให้บริการ 3G และ 4G จะเห็นได้ว่า 3G นั้น มึความครอบคลุมใกล้เคียงกัน แต่สำหรับพื้นที่ให้บริการ 4G ในส่วนของภาคอีสาน Truemove-H จะมีพื้นที่ให้บริการครอบคลุมมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ในส่วน 4.5G นั้นส่วนใหญ่ก็จะพัฒนาบนพื้นฐานของเทคโนโลยี 4 G คงต้องดูว่าในอนาคตทั้ง 2 ค่ายจะสามารถอัพเกรดเทคโนโลยีเดิมของตนได้เร็วแค่ไหน AIS เคยให้ข่าวตอนเปิดตัว 4.5G ว่าในช่วงแรกจะเน้นในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลก่อนในช่วงแรกและจะขยายไปยังหัวเมืองใหญ่ๆต่อไป ซึ่งจะเห็นว่าสัญญาน 4G (สีเขียวอ่อน) ของ AIS ก็จะค่อนข้างหนาแน่นในกรุงเทพและปริมณฑล ในส่วนของ TrueMove H นั้นตั้งเป้าว่าจะให้บริการให้มีความครอบคลุมมากที่สุดและสามารถใช้งานได้จริงทุกอำเภอซึ่งถ้าดูจากพื้นที่การให้บริการ 4G แล้วก็ถือว่า TrueMove-H ค่อนข้างทำได้ดีกว่าในเรื่องของการเพิ่มประสิทธิภาพของเสาสัญญานให้รองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ
ปัจจัยสำคัญอีกอย่างนึงที่เราต้องพิจารณาเพิ่มเติมนั่นก็คืออุปกรณ์ที่รองรับการใช้งาน 4.5G เพราะในขณะนี้อุปกรณ์ที่รองรับยังมีค่อนข้างน้อย สมาร์ทโฟนรุ่นที่ใช้ 4.5G ได้จริงก็จะเป็นรุ่นเรือธงของแต่ละแบรนด์ที่ส่วนใหญ่เปิดตัวในปีนี้เท่านั้น ดังนั้น ผู้ใช้ที่สนใจอาจจะต้องรออีกสักระยะเพื่อให้บรรดาผู้ผลิตสมาร์ทโฟนพัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมาให้รองรับการใช้งาน 4.5G ก่อนด้วยครับ แต่อย่างไรก็ดีการพัฒนาระบบ 4.5 G ถึงแม้ว่าเครื่องของเรายังไม่รองรับในตอนนี้แต่การมี 4.5 G ก็จะช่วยให้ใช้ Internet บนมือถือของเครื่องเราได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอยู่ดี
บทสรุปเทคโนโลยี 4.5 G และการพัฒนาของผู้ให้บริการ
จะเห็นได้ว่าในส่วนของเทคโนโลยี 4 G หรือ 4.5 G นั้นนอกจากจะต้องคำนึงถึงความรอบคลุมของพิ้นที่ในการให้บริการแล้ว เทคโนโลยีที่ใช้ก้มีส่วนสำคัญต่อคุณภาพการใช้งานสำหรับผู้ใช้อย่างเราๆ นั้นการได้เห็นเครือข่ายผู้ให้บริการพัฒนาโครงข่ายสัญญาณเพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ดียิ่งขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้นก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เพราะในอนาคตอันใกล้นี้รับรองว่าสมาร์ทโฟนเล็กๆ เพียงหนึ่งเครื่อง จะสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันอย่างแน่นอน อย่างไรก็ดีเนื่องจากเทคโนโลยี 4.5G จำเป็นต้องใช้กับสมาร์ทโฟนที่รองรับการทำงานกับ LTE-A เท่านั้นซึ่งปัจจุบันยังจำกัดอยู่กับมือถือเรือธงรุ่นใหม่เช่น iPhone 7 Samsung Galaxy S7 edge หรือ Huawai P9 ทำให้อาจจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะเพื่อที่จะทดสอบจากการใช้งานจริง แต่ถ้าดูจากข้อมูลเบื้องต้นทาง Truemove-H ก็ดูจะค่อนข้างมีความพร้อมในการให้บริการโดยช่วงนี้ก็มีการโปรโมตว่าสามารถใช้งานได้จริงทุกอำเภอ ซึ่งถือว่าเป็นการส่งสัญญานเอาจริงไปถึงผู้ให้บริการที่เหลือเพราะเมื่อมีคนเริ่มพัฒนาอย่างจริงจังแล้วเชื่อว่าผู้ให้บริกการรายอื่นก็คงต้องเร่งพัฒนาเทคโนโลยีให้มีประสิทธิภาพและครอบคลุมมากขึ้นด้วยเช่นกัน ผมเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้นี้เราน่าจะเข้าสู่ยุค 4.5 หรือ 5G อย่างเต็มรูปแบบและเมื่อถึงวันนั้นเชื่อว่าคงจะได้เห็นบริการใหม่ๆที่มีประโยชน์ออกมาอย่างแน่นอน สำหรับวันนี้ทีมงาน TechmoBlog ต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีครับ
นำเสนอบทความโดย : techmoblog.com
Update : 23/12/2016
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |