สหรัฐฯ ห้ามผู้โดยสารจาก 10 สนามบินนำแก็ดเจ็ตที่ใหญ่กว่าสมาร์ทโฟนขึ้นเครื่อง ทำสายการบินวุ่นเพราะแยกสมาร์ทโฟน-แฟ็บเล็ต-แท็บเล็ตหลายรุ่นไม่ออก

ทางการสหรัฐอเมริกาประกาศใช้คำสั่งห้ามผู้โดยสารจากสนามบิน 10 แห่งในทวีปตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือไม่ให้นำเครื่องใช้ไฟฟ้า "ที่มีขนาดใหญ่กว่าสมาร์ทโฟน" ขึ้นเครื่อง โดยอ้างเหตุผลด้านความปลอดภัย มีผลตั้งแต่เวลา 03.00 น.วันอังคารตามเวลาท้องถิ่น หรือ 14.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย ส่งผลให้ผู้โดยสารจากสนามบินดังกล่าวที่ต้องการบินตรงเข้าสู่สหรัฐอเมริกาไม่สามารถนำแท็บเล็ต, แล็ปท็อป, เครื่องเล่นเกมคอนโซลแบบพกพา และเครื่องเล่นดีวีดีติตตัวขึ้นมาในห้องโดยสารของเครื่องบินได้ โดยต้องโหลดเป็นสัมภาระใต้ท้องเครื่องเท่านั้น แต่ยังสามารถนำสมาร์ทโฟนขึ้นห้องโดยสารได้ตามปกติ

คำสั่งห้ามนี้มีผลต่อสนามบิน 10 แห่งใน 8 ชาติ ได้แก่

1. ท่าอากาศยานนานาชาติ กรุงอัมมาน จอร์แดน
2. ท่าอากาศยานนานาชาติ กรุงไคโร อียิปต์
3. ท่าอากาศยานนานาชาติ เมืองอิสตันบูล ตุรกี
4. ท่าอากาศยานนานาชาติ เมืองเจดดาห์ ซาอุดิอาระเบีย
5. ท่าอากาศยานนานาชาติ กรุงริยาด ซาอุดิอาระเบีย
6. ท่าอากศยานนานาชาติคูเวต
7. ท่าอากศยานนานาชาติ เมืองคาซาบลังกา โมร็อกโก
8. ท่าอากศยานนานาชาติ กรุงโดฮา กาตาร์
9. ท่าอากศยานนานาชาติ กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
10. ท่าอากศยานนานาชาติ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ข้อมูลล่าสุดระบุว่า คำสั่งดังกล่าวมีผลบังคับใช้กับผู้โดยสารทุกเชื้อชาติ นักท่องเที่ยวชาวไทย รวมทั้งชาวไทยมุสลิมที่เดินทางไปแสวงบุญ และต้องการบินตรงต่อไปยังสหรัฐอเมริกาจึงได้รับผลกระทบด้วย ปัญหาที่ตามมาจากการออกคำสั่งนี้คือ ทั้งผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่สายการบินไม่สามารถแยกแยะอุปกรณ์บางอย่างว่าเป็น "แท็บเล็ต" หรือ "สมาร์ทโฟน" เพราะในคำสั่งไม่ได้กำหนดนิยามของ "เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่กว่าสมาร์ทโฟน" ไว้อย่างชัดเจนนั่นเอง

แล้วเราเอาอะไรขึ้นเครื่องได้บ้าง?

หากยึดตามเกณฑ์ที่ใช้กันทั่วไป แท็บเล็ตคืออุปกรณ์ที่มีขนาดหน้าจอ 7 นิ้วขึ้นไป แต่ด้วยความที่สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ มีหน้าจอใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เช่น iPhone 7 Plus และ Samsung Galaxy S7 ที่มีหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว บางรุ่นก็ใหญ่เกิน 6 นิ้วอย่าง Sony Xperia Z Ultra ซึ่งใกล้เคียงกับแท็บเล็ตมาก ขณะเดียวกันยังมีแท็บเล็ตหลายรุ่นที่ใช้โทรศัพท์ได้ เช่น Huawei Honor X2 และ Asus FonePad ซึ่งนิยามตัวเองว่าเป็น "แฟ็บเล็ต" ทำให้การจำแนกเป็นไปได้ยากมาก

สำหรับประเด็นนี้ เว็บไซต์ The Verge ได้สอบถามนิยามที่ชัดเจนจากทางกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (DHS) ซึ่งก็ได้รับคำตอบที่คลุมเครือว่า "ผู้โดยสารส่วนใหญ่สามารถแยกแยะได้อยู่แล้วว่าอุปกรณ์ใดคือสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์ใดไม่ใช่ หากไม่แน่ใจให้สอบถามกับทางสายการบิน" แต่เมื่อสอบถามกับสายการบินที่ได้รับผลกระทบ เช่น Royal Jordanian, Qatar Airways, Emirati Airlines และ Etihad ปรากฎว่าก็ไม่สามารถตอบได้อย่างชัดเจนเช่นกัน โดยเฉพาะการจำแนกอุปกรณ์แฟ็บเล็ต สรุปแล้วก็คือ ไม่มีใครตอบคำถามนี้ได้เลย

สำหรับพี่น้องชาวไทยที่ได้รับผลกระทบ แนะนำว่าหากเป็นแท็บเล็ตขนาดเกิน 7 นิ้วทั้งโทรได้และโทรไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น iPad, Galaxy Tab หรือ Surface ทุกรุ่น ให้โหลดใต้เครื่องไว้ก่อน ส่วนอุปกรณ์จำพวกแฟ็บเล็ตก็ให้โหลดใต้เครื่องไว้ก่อนเช่นกัน สำหรับสมาร์ทโฟนจอยักษ์ 6 นิ้วขึ้นไปอย่าง Galaxy A9 Pro และ Xperia Z Ultra ให้สอบถามกับเจ้าหน้าที่สายการบินโดยตรงก่อนเช็กอิน และไม่ควรถือผ่านด่านตรวจสัมภาระไปให้เจ้าหน้าที่ตัดสินใจให้ เพราะอาจถูกบังคับให้ทิ้งอุปกรณ์ได้ครับ

---------------------------------------
ที่มา : The Verge
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com

Update : 22/03/2017