หลังจากที่ทาง vivo ได้เผยโฉม vivo V5 สมาร์ทโฟนเจ้าของฉายา Perfect Selfie ที่เน้นเจาะกลุ่มผู้ใช้งานที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเซลฟี่โดยเฉพาะ ด้วยจุดเด่นอย่างกล้องหน้าความละเอียดสูงถึง 20 ล้านพิกเซล และเมื่อเร็วๆ นี้ แบรนด์ vivo ได้สานต่อความสำเร็จครั้งนี้อีกครั้งด้วยการปล่อยรุ่นอัปเกรดอย่าง vivo V5 Plus ที่เสริมจุดเด่นด้านการถ่ายภาพเซลฟี่ด้วยกล้องหน้าคู่ Dual-Camera ความละเอียด 20 + 8 ล้านพิกเซล พร้อมรองรับการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ หรือทำเอฟเฟ็กต์ Bokeh ได้อย่างง่ายดาย รวมทั้งยังยกระดับการถ่ายภาพเซลฟี่ในสภาวะแสงน้อยด้วยไฟแฟลชแบบ Selfie Softlight
นอกเหนือจากกล้องหน้าแล้ว คุณสมับติอื่นๆ ก็ถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่ารุ่นเดิมแบบรอบด้านเลยทีเดียว โดยมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 625 แบบ Octa-core processor จับคู่การทำงานกับหน่วยความจำ RAM 4GB, หน่วยความจำภายในทั้งหมด 64GB, กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มโฮม, แบตเตอรี่ความจุ 3160mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว และทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow ซึ่งถูกครอบทับด้วย Funtouch OS โดยทาง vivo เปิดราคาในประเทศไทยเอาไว้ที่ 13,990 บาท
ภายในวันนี้ ทางทีมงาน techmoblog จะพาทุกท่านไปดูหน่อยว่า vivo V5 Plus จะน่าสนใจเพียงใด รวมทั้งกล้องหน้าแบบคู่จะสามารถทำได้ดีสมชื่อ Perfect Selfie หรือไม่ เราลองไปติดตามพร้อมๆ กันดีกว่าครับ
สเปก vivo V5 Plus
>> สเปก vivo V5 Plus อย่างละเอียด คลิกที่นี่
เริ่มต้นที่แพ็คเกจกันก่อน โดยกล่อง vivo V5 Plus มีการพิมพ์ลวดลายตัวเครื่องให้เห็นแบบชัดๆ ซึ่งที่ด้านล่างมีการประทับจุดเด่นของรุ่นนี้นั่นก็คือ กล้องหน้าแบบคู่ Dual-Camera 20 ล้านพิกเซล พร้อมกับฉายา Perfect Selfie
ส่วนที่ด้านหลัง มีการระบุคุณสมบัติเด่นด้านอื่นของ vivo V5 Plus ให้รับทราบเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, RAM 4GB, หน่วยความจำภายใน 64GB หรือ การรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว
โดยภายในกล่องมีอุปกรณ์พื้นฐานมาให้แบบครบครัน ประกอบไปด้วย เคสใส, ฟิล์มกันรอย, Adapter สำหรับชาร์จไฟ, สาย microUSB, หูฟัง, เข็มเจาะถาดใส่ซิมการ์ด และคู่มือการใช้งาน
นอกจากนี้ ผู้ใช้ที่ซื้อ vivo V5 Plus จะได้รับกิฟเซ็ตซึ่งประกอบไปด้วย หูฟัง Bluetooth และ Adapter สำหรับชาร์จไฟในรถ (ของแถมมีจำนวนจำกัด)
สำหรับ vivo V5 Plus มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ IPS ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Gorilla Glass 5 รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมดีไซน์บางเฉียบเพียง 7.26 มิลลิเมตร โดยตัวเครื่องผลิตด้วยวัสดุประเภทโลหะ ขึ้นรูปแบบ unibody และมีขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 152.6 x 74 x 7.26 มม. น้ำหนักรวม 158.6 กรัม
ด้านบนของหน้าจอแสดงผล ประกอบไปด้วย ไฟแสดงสถานะ, ลำโพงสนทนา, เซ็นเซอร์ต่างๆ และจุดแข็งของรุ่นนี้อย่าง กล้องแบบคู่ Dual-Camera ความละเอียด 20 + 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช Selfie Softlight ที่จะคอยปล่อยแสงไฟสำหรับถ่ายเซลฟี่ในสภาวะแสงน้อย
ส่วนด้านล่างของหน้าจอแสดงผล มีปุ่มเมนู และปุ่มย้อนกลับแบบสัมผัส ส่วนปุ่ม Home จะมีเซ็นเซอร์สแกนลายมิ้วมือฝังเอาไว้ในตัว ซึ่งปุ่มโฮมนั้นนับว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ vivo V5 Plus เนื่องจากผู้ใช้งานสามารถแตะเบาๆ เพื่อสแกนลายนิ้วมือขณะหน้าจอดับได้ รวมถึงการแตะเพื่อควบคุมฟังก์ชันการทำงานต่างๆ โดยไม่ต้องกดลงไปแต่อย่างใด
ด้านขวาของตัวเครื่อง ประกอบไปด้วย ปุ่มเปิด-ปิด และปุ่มปรับระดับเสียง ส่วนด้านซ้ายของตัวเครื่อง เป็นช่องใส่ซิมการ์ด และ microSD Card
สำหรับถาดใส่ซิมการ์ดของ vivo V5 Plus จะรองรับซิมแบบ nano-sim ด้วยกันทั้ง 2 ช่อง และไม่รองรับหน่วยความจำเสริม microSD Card
ด้านบนของตัวเครื่องไม่มีพอร์ตเชื่อมต่อใดๆ ส่วนที่ด้านล่างประกอบด้วย ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. พอร์ตเชื่อมต่อแบบ micro USB, ไมค์สนทนา และลำโพงหลักของตัวเครื่อง
ด้านหลังของตัวเครื่อง ผลิตด้วยวัสดุประเภทโลหะให้ความรู้สึกเรียบหรู พร้อมประทับโลโก vivo แบบเงางาม และปรับเปลี่ยนเส้นเสารับสัญญาณให้มีความโค้งมนโอบรับกับดีไซน์ตัวเครื่อง โดยฝาหลังไม่สามารถแกะออกเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่เองได้ ส่วนที่ด้านบน มีการติดตั้งกล้องหลังคววามละเอียดความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และไฟแฟลชแบบ LED
vivo V5 Plus ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow ซึ่งถูกครอบทับด้วย Funtouch OS 3.0 โดยหน้าอินเทอร์เฟสของ vivo V5 Plus ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ไม่มีหน้ารวมแอป (App Drawer) ทำให้แอปพลิเคชันที่ติดตั้งเอาไว้จะถูกจัดเรียงอยู่บนหน้า Homescreen ทั้งหมด แต่ผู้ใช้สามารถสร้างโฟลเดอร์เพื่อจัดเก็บแอปให้เป็นหมวดหมู่ได้
ผู้ใช้สามารถแตะค้างบนหน้าจอ เพื่อเพิ่ม widget, เปลี่ยนเอฟเฟ็กต์การเลื่อน รวมไปถึงการซ่อนไอคอนแอปต่างๆ ที่เราไม่ต้องการได้
ลากนิ้วจากบนลงล่าง จะปรากฏแถบ Notification Center สำหรับแจ้งเตือนต่างๆ เมื่อลากนิ้วจากล่างขึ้นบน จะปรากฏแผงเมนูลัดต่างๆ ทั้งการเปิด-ปิด Wi-Fi, เปิดไฟฉาย, เปิดใช้เน็ตมือถือ รวมไปถึงการปรับระดับเสียงและความสว่างหน้าจอ ซึ่งผู้ใช้สามารถเพิ่มและลดคีย์ลัดต่างๆ ได้ด้วย
สำหรับแอปพลิเคชันจาก Google ก็ถูกติดตั้งมาให้แบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเบราเซอร์ Chrome, Google Duo สำหรับวิดีโอคอลข้ามแพลตฟอร์ม หรือ Google Maps รวมไปถึงแอปพลิเคชันพื้นฐานอย่าง เครื่องคิดเลข, เครื่องบันทึกเสียง และเข็มทิศ
หากธีมที่ใช้อยู่ยังไม่ถูกใจ ผู้ใช้งานยังสามารถเข้าไปเลือกดาวน์โหลด Theme เพิ่มเติมได้ที่ iTheme รวมไปถึงภาพ Wallppaper และภาพ Lock screen
vivo V5 Plus ยังมาพร้อมกับแอปพลิเคชัน i Manager ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบ และจัดการระบบต่างๆ บนตัวเครื่องได้อย่างง่ายดาย ประกอบไปด้วย การเคลียร์ RAM, การจัดการแอปพลิเคชัน และการตรวจสอบปริมาณดาต้าที่ใช้ไป
vivo V5 Plus ยังมีฟังก์ชันการใช้งานในรูปแบบอื่นๆ เช่น Eye Protection Mode หรือโหมดถนอมสายตาที่ช่วยลดแสงสีฟ้าจากหน้าจอ, โหมดการซูมรูปภาพด้วยการเอียงโทรศัพท์ รวมถึงโหมดแบ่งหน้าจอเพื่อใช้งานแบบ 2 แอปพลิเคชัน
ข้ามมาที่ประสิทธิภาพด้านตัวเครื่องกันบ้าง โดย vivo V5 Plus ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 625 พร้อมหน่วยประมวลผลกราฟฟิก Adreno 506 จับคู่การทำงานกับหน่วยความจำ RAM 4GB โดยจากที่ได้ลองทดสอบด้วยการเล่นเกม 3D ทั่วๆ ไป ถือว่าสามารถทำได้อย่างน่าประทับใจ และตอบสนองได้อย่างลื่นไหล แต่สำหรับเกมที่มีกราฟฟิกหนักๆ จะปรากฏอาการหน่วงให้เห็นบ้างเป็นระยะ
ลองทดสอบ Benchmark ด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu สามารถทำคะแนนได้ประมาณ 63229 คะแนน ส่วนผลทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน Geekbench สามารถทำคะแนนทดสอบการประมวลผลแบบ Single-Core ได้ 842 คะแนน และทำคะแนนทดสอบแบบ Multi-Core ได้ 3043 คะแนน
ทดสอบด้วย Sensor Box จะได้ได้ว่า vivo V5 Plus มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ Accelerometer, light, orientation, proximity, Gryoscope, Sound, และ Magnetic
นอกจากนี้ vivo V5 Plus ยังมาพร้อมกับจุดเด่นอีกหนึ่งอย่าง นั่นก็คือ ระบบเสียงแบบ Hi-Fi ที่ใช้ชิปเสียง AK4376 ซึ่งจะช่วยถ่ายทอดเสียงดนตรีให้มีความคมชัด และมีมิติมากกว่าเดิม
สำหรับจุดเด่นของ vivo V5 Plus อย่างที่ระบุเอาไว้ข้างต้นนั่นก็คือ กล้องหน้าเซลฟี่แบบคู่ความละเอียดสูงนั่นเอง โดยกล้องตัวแรกมีความละเอียด 20 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์รับภาพจาก Sony IMX376 ส่วนกล้องตัวที่ 2 มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สำหรับตรวจจับระยะชัดตื้นของภาพ ทำให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอด้วยโหมด Bokeh ของ vivo V5 Plus ซึ่งตัวซอฟท์แวร์สามารถจำลองรูรับแสงได้กว้างสูงสุด f/0.95 ทำให้ละลายฉากหลังได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับโหมดถ่ายภาพเซลฟี่ในรูปแบบต่างๆ เช่น โหมด HDR รวมไปถึง โหมด Beauty
ส่วนกล้องหลังถือว่าน่าสนใจไม่แพ้กัน โดยมาพร้อมกับความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.0 และไฟแฟลแบบ LED โดยจะมีโหมดการถ่ายภาพต่างๆ ให้เลือกใช้งานหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น โหมดโปร, โหมด Slow สำหรับการถ่ายวิดีโอแบบสโลโมชัน, โหมด Time Lapse และโหมด PPT หรือโหมดถ่ายภาพเอกสาร และงานนำเสนอ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า แบบไม่ปรับแต่ง
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า แบบไม่ปรับแต่ง
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า ด้วยโหมดหน้าชัดหลังเบลอ (Bokeh)
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า ด้วยโหมดหน้าชัดหลังเบลอ (Bokeh)
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า ในสภาวะแสงน้อย พร้อมเปิดไฟแฟลช Selfie Softlight
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง
บทสรุปการใช้งาน
เรียกได้ว่า vivo V5 Plus เป็นสมาร์ทโฟนที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ชื่นชอบการเซลฟี่อย่างแท้จริง เนื่องจากมาพร้อมกับระบบกล้องหน้าคู่ ซึ่งกล้องตัวที่ 2 จะคอยจับระยะชัดตื้นทำให้เราสามารถถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ หรือเอฟเฟ็กต์ Bokeh ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ ยังมาพร้อมแสงแฟลช Selfie Softlight ที่ช่วยให้การถ่ายภาพในที่มืด หรือตอนกลางคืนได้ดียิ่งขึ้น ส่วนกล้องหลังถึงแม้ว่าจะไม่ได้ใช้งานกล้องคู่ด้วย แต่ทดแทนด้วยกล้องความละเอียดสูง 16 ล้านพิกเซล พร้อมโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานมากมาย
สำหรับด้านสเปกตัวเครื่องก็ถือว่าน่าสนใจไม่ใช่น้อย เนื่องจากถูกจัดวางมาให้แบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ Full HD ไซส์ใหญ่ 5.5 นิ้ว ซึ่งถูกครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 5 รุ่นใหม่ล่าสุดที่จะช่วยปกป้องจากการตกกระแทกได้ดียิ่งขึ้น พร้อมขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 625 แบบ Octa-Core Processor จับคู่การทำงานกับ RAM 4GB ซึ่งนับว่าสามารถตอบโจทย์การใช้งานทั่วๆ ไป รวมไปถึงการเล่นเกมได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบการฟังเพลงด้วยชิปเสียงระดับ Hi-Fi ทำให้เสียงที่ได้มีมิติมากขึ้น
โดยค่าตัวของ vivo V5 Plus เปิดราคาไว้ที่ 13,990 บาท ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีราคาที่สูงกว่ารุ่น V5 พอสมควร แต่หากพิจารณาจากการได้กล้องหน้าคู่ และสเปกภายที่อัปเกรดมากขึ้นในหลายจุด ถือว่า vivo V5 Plus เป็นสมาร์ทโฟนที่สามารถตอบโจทย์ทั้งการเซลฟี่แบบคมชัด และการใช้งานรอบด้านได้เป็นอย่างดี
จุดเด่นของ vivo V5 Plus
จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม
ข้อควรทราบ: “เครื่อง vivo V5 Plus ที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้ เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทาง วีโว เท่านั้น ยังไม่ใช่เครื่องที่วางจำหน่ายจริงแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นตัวเครื่อง หรือฟังก์ชันการทำงานบางอย่างอาจจะยังไม่สมบูรณ์ 100% เหมือนกับเครื่องที่วางจำหน่ายจริง”
---------------------------------------
บทความรีวิวโดย : techmoblog.com
Update : 01/03/2017
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |