ได้ฤกษ์วางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการแล้วครับ สำหรับ vivo X3S สมาร์ทโฟนจากประเทศจีน ที่มาพร้อมกับ สเปคแรง แต่ราคาเบาๆ โดย vivo X3S รุ่นนี้ ถือว่า โดดเด่นตั้งแต่ดีไซน์ การออกแบบ ไปจนถึง สเปค เลยทีเดียว ซึ่งถือว่า เป็นสมาร์ทโฟนที่มีความบางมากที่สุดในโลก ณ ตอนนี้ ด้วยตัวเครื่องที่บางเพียง 5.95 มิลลิเมตร เท่านั้น และดีไซน์ล้ำๆ ทันสมัย ส่วนหน่วยประมวลผล ถือว่า แรงไม่แพ้รุ่นอื่นๆ กันเลยทีเดียว โดยมาพร้อมกับ หน่วยประมวลผลแบบ Octa-Core Processor ความเร็ว 1.7 GHz และอินเทอร์เฟสแบบ Funtouch OS ที่ดูแปลกตากว่า มือถือแอนดรอยด์ รุ่นอื่นๆ นอกจากนี้ vivo X3S ยังรองรับการใช้งานด้านบันเทิงอย่างเต็มรูปแบบ ด้วย ระบบเสียงและหูฟังระบบ Hi-Fi พร้อมกล้องดิจิตอลด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และโหมดการถ่ายภาพแบบมืออาชีพ มาชมกันดีกว่าว่า vivo X3S รุ่นนี้ จะมีความน่าใช้ และน่าสนใจแค่ไหน กับบทความ รีวิว vivo X3S โดยทีมงาน techmoblog ครับ
สเปค vivo X3S
- จอแสดงผลกว้าง 5.0 นิ้ว แบบ TFT Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล (293 ppi)
- หน่วยประมวลผลแบบ Octa-Core ARM Cortex-A7 Processor (MediaTek MT6592 chipset) ความเร็ว 1.7 GHz
- หน่วยประมวลผลภาพ Mali-450 MP4
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 1 GB
- หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 16 GB
- กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
- กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED
- ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS ซึ่งมีพื้นฐานอยู่บน Android 4.2.2 (Jelly Bean)
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด ภายในเครื่องเดียว
- แบตเตอรี่ขนาด 2000 mAh
>> สเปค vivo X3S อย่างละเอียด คลิกที่นี่
รีวิว vivo X3S : ดีไซน์ และ การออกแบบ
สำหรับความโดดเด่น สะดุดตา ของ vivo X3S รุ่นนี้ ก็คงเป็นเรื่องของ ความบาง ของตัวเครื่องนั่นเอง โดยมีความบางอยู่ที่ 5.95 มิลลิเมตรเท่านั้น ซึ่งถือว่า เป็นสมาร์ทโฟนที่บางที่สุดในโลกตอนนี้เลยก็ว่าได้ โดย vivo X3S มาพร้อมกับหน้าจอขนาดกว้าง 5 นิ้ว แบบ TFT Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล (293 ppi) ซึ่งถึงแม้ว่า หน้าจอจะมีขนาดใหญ่ แต่เนื่องจากตัวเครื่องที่ถูกออกแบบให้บางเฉียบ ทำให้จับได้ถนัดมือมากทีเดียว
ด้านบนของหน้าจอแสดงผล ประกอบด้วย Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน, Ambient Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม, Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้, ลำโพงสำหรับสนทนา และกล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
นอกจากนี้ ตรงมุมบนซ้าย จะมีไฟ LED แจ้งเตือน ถ้าหากมีข้อความเข้า หรือสายที่ไม่ได้รับ เป็นไฟสีเขียวกระพริบขณะหน้าจอดับครับ
ด้านล่างของหน้าจอแสดงผล ประกอบด้วย ปุ่มควบคุมการทำงานแบบสัมผัส 3 ปุ่มหลัก ได้แก่ ปุ่มเมนู, ปุ่ม Home และปุ่มย้อนกลับ (Back)
ด้านขวาของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องสำหรับใส่ซิมการ์ด ซึ่ง vivo X3S นั้น รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดภายในเครื่องเดียว โดยเป็นซิมการ์ดแบบ microSIM และ nanoSIM ส่วนด้านซ้ายของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดเครื่อง หรือล็อคหน้าจอแสดงผล และปุ่มปรับระดับเสียง
ด้านบนของตัวเครื่อง ประกอบด้วย ช่องหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร และไมโครโฟนตัวที่สอง สำหรับตัดเสียงรบกวนรอบข้าง ส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง ประกอบด้วย พอร์ต microUSB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ หรือเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เพื่อถ่ายโอนข้อมูล และไมโครโฟนตัวหลักสำหรับสนทนา
สำหรับดีไซน์ด้านหลังตัวเครื่องของ vivo X3S นั้น จะเป็นแบบทูโทน คล้ายกับ iPhone 5S นั่นเอง ซึ่งด้านบนของตัวเครื่อง เป็นกล้องดิจิตอลความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED และรูรับแสงกว้าง f/1.8 โดยตัวเลนส์จะมีลักษณะยื่นออกมาเล็กน้อย ส่วนด้านล่าง เป็นลำโพงเสียง
อย่างไรก็ดี vivo X3S รุ่นนี้ ไม่สามารถถอดฝาหลังเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ และไม่รองรับหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD card ฉะนั้น จะต้องจัดสรรพื้นที่การใช้งานให้ดีครับ
อุปกรณ์พื้นฐานภายในกล่อง ประกอบด้วย หูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร, Adapter สำหรับชาร์จไฟ, สาย microUSB, คู่มือการใช้งาน และเคสใส แถมมาให้ด้วย
รีวิว vivo X3S : อินเทอร์เฟส และการใช้งานเบื้องต้น
vivo X3S มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Funtouch OS ซึ่งมีพื้นฐานอยู่บน Android 4.2.2 (Jelly Bean) ซึ่งอินเทอร์เฟสค่อนข้างแปลกตากว่า มือถือแอนดรอยด์ รุ่นอื่นๆ ครับ ปกติการปัดไปซ้ายหรือขวา จะเป็นการปลดล็อค แต่บน vivo X3S การปัดเป็นด้านซ้าย จะเป็นการเข้าสู่โหมดกล้อง ส่วนการปัดไปด้านขวา จะเป็นเครื่องเล่นเพลง ซึ่งการปลดล็อค ให้ปัดขึ้นด้านบนครับ
ส่วนด้านล่างหน้าจอ จะเห็นว่า มีข้อความแจ้งเตือนปรากฏอยู่ สามารถแตะแล้วลากขึ้น เพื่ออ่านข้อความดังกล่าว และตอบกลับได้เลยทันที
มาดูกันต่อที่หน้า Homescreen ครับ เรียกได้ว่า มี Widget ที่ดูแปลกตาทีเดียว และเช่นเดียวกับ สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ทั่วๆ ไป สามารถปรับแต่ง วอลเปเปอร์, Widget หรือจัดเรียงแอพพลิเคชั่นได้ตามใจชอบ
ส่วนการกดปุ่ม Power ค้างไว้ จะเป็นการเข้าสู่เมนูลัด ไม่ว่าจะเป็น โหมดประหยัดพลังงานขั้นสูง, เปิดใช้งานระบบสั่น, เปิดใช้งานโหมดออฟไลน์, รีสตาร์ท และปิดเครื่อง
Notification Center นอกจากจะแจ้งเตือนรายละเอียดต่างๆ แล้ว ยังสามารถเปิด-ปิดการเล่นเพลงได้ ส่วนเมนูลัด ย้ายมาอยู่ด้านล่างครับ ซึ่งความพิเศษของ vivo X3S ก็คือ ผู้ใช้สามารถรีสตาร์ทเครื่อง หรือปิดเครื่องได้จาก Notification Center อีกด้วย
การแตะปุ่มเมนูค้างไว้ เป็นการเข้าสู่เมนู Task manager เพื่อสลับใช้งานเป็นแอพพลิเคชั่นอื่น (Multitasking) หรือปิดแอพพลิเคชั่นที่ไม่ใช้งาน เพื่อเป็นการเพิ่มหน่วยความจำ RAM ให้กับตัวเครื่อง
ส่วนการแตะปุ่มเมนู 1 ครั้ง จะสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้ตามใจ ทั้ง Widget, ธีม, วอลเปเปอร์ และอื่นๆ อีกมากมาย
มากันที่หน้าแอพพลิเคชั่นรวมกันบ้าง จะเห็นได้ว่า บน vivo X3S นั้น ประกอบไปด้วย แอพพลิเคชั่นพื้นฐานที่จำเป็นมากมายทีเดียว ซึ่งการแตะที่ไอคอนใดไอคอนหนึ่งค้างไว้ จะสามารถเลือกแอพพลิเคชั่นนั้นๆ ไปสร้างเป็น shortcut ที่หน้า Homescreen ได้
เมนูการใช้งานโทรศัพท์ บน vivo X3S ครับ เนื่องจากรุ่นนี้ รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด ฉะนั้น ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่า จะโทรออกจากซิมการ์ดที่ 1 หรือซิมการ์ดที่ 2 โดยสามารถเข้าไปตั้งค่าการใช้งานซิมการ์ด ได้ที่หน้า Settings
แอพพลิเคชั่นปฏิทิน สามารถเพิ่มกำหนดการนัดหมายต่างๆ พร้อมแจ้งเตือนล่วงหน้าได้
แอพพลิเคชั่น นาฬิกา มีให้เลือกใช้งาน 4 หมวดย่อยด้วยกัน ได้แก่ นาฬิกาปลุก, เวลาโลก, นาฬิกาจับเวลา และ การตั้งเวลา
บน vivo X3S จะมีเบราว์เซอร์ให้เลือกใช้งานถึง 3 แบบด้วยกัน ได้แก่ Chrome, Opera Mini และ Android browser สามารถเลือกใช้งานได้ตามความชอบ
vivo X3S มาพร้อมกับระบบ GPS และ A-GPS ในตัว สามารถใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่นประเภท นำทาง ได้ทันที รวมถึงแอพพลิเคชั่นยอดนิยมอย่าง Google Maps ก็สามารถใช้งานบน vivo X3S ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับการใช้งานด้านเสียงเพลงนั้น ถือว่า vivo X3S รุ่นนี้ โดดเด่นไม่แพ้ สมาร์ทโฟน รุ่นอื่นๆ เลยก็ว่าได้ครับ โดยใช้ชิป Hi-Fi DAC ES9018 MK2 ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท ESS สามารถเล่นเสียงได้สูงสุดมากกว่า 127dB S/N และต่ำสุดกว่า 120dB นอกจากนี้ หูฟังยังเป็นระบบ Hi-Fi ที่ให้คุณภาพเสียงที่คมชัดมากทีเดียว
นอกจากนี้ ยังมีระบบ Scene Music สามารถสร้าง Playlist และเลือกเพลงแบ่งแยกตามอารมณ์ เช่น สุข, เศร้า หรือเหงา เพื่อความสะดวกในการเลือกฟังเพลงให้เหมาะกับอารมณ์ในตอนนั้น
โน้ต แอพพลิเคชั่นบันทึกแบบย่อ สามารถแทรกรูปภาพได้ นอกจากนี้ ยังรองรับการพิมพ์ภาษาไทยอย่างเต็มรูปแบบอีกด้วย
สำหรับแอพพลิเคชั่นพื้นฐานบน vivo X3S ถือว่า จัดเต็มกันเลยทีเดียว ทั้งวิทยุ FM, เครื่องบันทึกเสียง
รวมไปถึงเครื่องคิดเลข และไฟฉาย เรียกได้ว่า ไม่ต้องดาวน์โหลดเพิ่มเติมแต่อย่างใด
และถ้าหากแอพพลิเคชั่นที่มีในเครื่อง ยังไม่จุใจต่อการใช้งาน สามารถดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้ที่ Play Store
มาทดสอบ Benchmark บน vivo X3S กันบ้างครับ โดยผลการทดสอบด้วยโปรแกรม Quadrant วัดความเร็วในการทำงานของ CPU และกราฟฟิค อยู่ที่ 11500 คะแนน, AnTuTu ทดสอบ CPU, 2D & 3D graphics, SD card และ Database อยู่ที่ 21567 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนที่อยู่ในระดับกลางๆ
ส่วนมัลติทัช รองรับที่ 5 จุดครับ
แอพพลิเคชั่นแนะนำจาก vivo
vivoCloud แอพพลิเคชั่นสำรองข้อมูลบนกลุ่มเมฆ (Cloud) ซึ่งสามารถสำรองข้อมูลได้ทั้ง รายชื่อผู้ติดต่อ, SMS รวมไปถึง Bookmark โดยผู้ใช้จะต้องตั้งค่าบัญชีเสียก่อน
ตัวจัดการไฟล์ จัดระเบียบให้กับตัวเครื่อง โดยแบ่งแยกตามหมวดหมู่ เช่น เพลง, วีดีโอ, รูปภาพ, ธีม หรือไฟล์เอกสาร ซึ่ง vivo X3S นั้น มีหน่วยความจำภายในตัวเครื่องขนาด 16 GB และไม่รองรับหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD card ฉะนั้น ผู้ใช้จะต้องทำการจัดสรรไฟล์ในตัวเครื่องให้ดี มิเช่นนั้นจะไม่มีพื้นที่เพียงพอต่อการจัดเก็บข้อมูลครับ
i Manager เป็นแอพพลิเคชั่นที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน เช่น ล้างข้อมูล, ลบแอพพลิเคชั่นที่ไม่ใช้งาน, จัดการแบตเตอรี่, บล็อกเบอร์โทรศัพท์ หรือข้อความที่ไม่ต้องการ และอื่นๆ อีกมากมาย
ฟีเจอร์เด็ดๆ ที่ซ่อนอยู่บน vivo X3S รุ่นนี้ ก็คือ โหมด Smart Wake นั่นเอง ด้วยการเข้าสู่แอพพลิเคชั่นต่างๆ แบบไม่ต้องปลดล็อคหน้าจอ เพียงแค่ใช้ปลายนิ้ววาดบนหน้าจอครับ เช่น วาดตัว c เพื่อเข้าสู่หน้าโทรศัพท์ หรือวาดตัว m เพื่อเข้าสู่แอพฯ เครื่องเล่นเพลง เป็นต้น
รีวิว vivo X3S ทดสอบกล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
vivo X3S มาพร้อมกล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED, ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ และรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/1.8 โดยมีโหมดการถ่ายภาพให้เลือกใช้กันถึง 7 แบบด้วยกัน ได้แก่ ปกติ, ใบหน้าสวย, ไมโครวีดีโอ (ถ่ายวีดีโอสั้น ความยาว 6 วินาที), HDR, Pose, Panorama และโหมดกลางคืน
เป็นกันหรือไม่ครับ เวลาจะถ่ายภาพทั้งที ก็ไม่รู้จะถ่ายท่าไหนดี สุดท้ายต้องจบลงด้วย ท่าชูสองนิ้ว ตลอด ซึ่ง vivo X3S มีโหมด Pose รวมท่าทางการถ่ายภาพให้ผู้ใช้มากมายทีเดียว จะโชว์เดี่ยว มาเป็นคู่ หรือมาเป็นกลุ่ม คลิกเลือกให้ถูก แล้วโพสท่าตามเลยครับ
ตกแต่งภาพถ่ายธรรมดาๆ ด้วยลายน้ำกันเสียหน่อย ซึ่งนอกจากจะบอกวันที่ และตำแหน่งแล้ว ยังมีคำเจ๋งๆ ประกอบภาพถ่ายอีกด้วย แต่ถ้าหากไม่ต้องการ ก็ปิดฟังก์ชันนี้ได้ครับ
นอกจากนี้ กล้องบน vivo X3S ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานอื่นๆ ได้อีกมากมาย เช่น ถ่ายภาพแบบจับเวลา, เลือกขนาดของภาพถ่ายได้, เลือกขนาดของวีดีโอ นอกจากนี้ ยังมีโหมดแต่งหน้าให้อัตโนมัติ จะปรับผิวเนียน, ทำตากลมโต หรือแต่งหน้า บน vivo X3S ก็มีให้เลือกใช้งานครับ
สำหรับ Gallery บน vivo X3S ถือว่า มีอินเทอร์เฟสที่น่าสนใจมากทีเดียว โดยเฉพาะในส่วนของ อัลบั้มภาพ ที่สามารถจัดกลุ่มภาพถ่ายให้เป็นหมวดหมู่ ส่วนภาพถ่ายปกติ สามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบครับ ไม่ว่าจะเป็น การใส่กรอบ, crop ภาพ, ปรับความสว่าง หรือใส่เอฟเฟกต์ให้กับภาพถ่าย เป็นต้น
มาชมตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องบน vivo X3S กันครับ (คลิกที่ภาพเพื่อชมภาพขนาดจริง แบบไม่ผ่านการตกแต่งใดๆ)
รีวิว vivo X3S : บทสรุปการใช้งาน
เรียกได้ว่า ในระยะหลัง มือถือจีน บุกตลาดบ้านเรากันหลายรุ่นทีเดียว ทั้ง Huawei, OPPO, Xiaomi และล่าสุดกับ vivo นั่นเอง โดย vivo X3S รุ่นนี้ ไม่ได้มีดีที่ความบางเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับ สเปคแรงเกินราคา ไม่ว่าจะเป็น หน่วยประมวลผลแบบ Octa-Core ARM Cortex-A7 Processor (MediaTek MT6592 chipset) ความเร็ว 1.7 GHz, หน่วยความจำ RAM ขนาด 1 GB, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดภายในเครื่องเดียว และระบบปฏิบัติการ Funtouch OS ซึ่งคล้ายกับ Color OS ของ OPPO อยู่บ้างเหมือนกัน แต่ว่า vivo X3S รุ่นนี้ มีข้อเสียตรงที่ ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD card ได้
สำหรับ ราคาของ vivo X3S อยู่ที่ 12,990 บาท ถือว่า เทียบสเปคกับราคาแล้ว คุ้มค่ามากเลยทีเดียวครับ
จุดเด่นของ vivo X3S
• รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด ภายในเครื่องเดียว
• จอแสดงผลกว้าง 5.0 นิ้ว แบบ TFT Capacitive Touchscreen 16.7 ล้านสี ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล (293 ppi)
• หน่วยประมวลผลแบบ Octa-Core ARM Cortex-A7 Processor (MediaTek MT6592 chipset) ความเร็ว 1.7 GHz
• หน่วยประมวลผลภาพ Mali-450 MP4
• หน่วยความจำ RAM ขนาด 1 GB
• หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง ขนาด 16 GB
• กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
• กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED
• ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS ซึ่งมีพื้นฐานอยู่บน Android 4.2.2 (Jelly Bean) ดีไซน์แปลกตา น่าใช้งาน
• ตัวเครื่องบางเฉียบ เพียง 5.95 มิลลิเมตร ถือว่า บางที่สุดในโลก ณ ตอนนี้ สามารถจับได้ถนัดมือ แม้ว่าหน้าจอจะมีขนาดใหญ่ก็ตาม
• ชิปเสียงแบบ Hi-Fi DAC ES9018 MK2 สามารถเล่นเสียงได้สูงสุดมากกว่า 127dB S/N และต่ำสุดกว่า 120dB
• ฟีเจอร์ Smart Wake เข้าสู่แอพพลิเคชั่นต่างๆ แบบไม่ต้องปลดล็อคหน้าจอ เพียงแค่ใช้ปลายนิ้ววาดบนหน้าจอ
• รองรับการใช้งานเครือข่าย 3G ทุกคลื่นความถี่
• มีวิทยุ FM ในตัว
• ระบบ GPS ในตัว พร้อมฟังก์ชัน A-GPS
จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม
• ไม่รองรับหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD card
• ไม่สามารถแกะฝาหลังเพื่อถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้
ข้อควรทราบ: “เครื่อง vivo X3S ที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้ เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทาง วีโว เท่านั้น ยังไม่ใช่เครื่องที่วางจำหน่ายจริงแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นตัวเครื่อง หรือฟังก์ชันการทำงานบางอย่างอาจจะยังไม่สมบูรณ์ 100% เหมือนกับเครื่องที่วางจำหน่ายจริง”
---------------------------------------
บทความรีวิวโดย: techmoblog.com
Update : 27/05/2015
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |