ซิมการ์ด เป็นหัวใจสำคัญที่อยู่คู่กับโทรศัพท์มือถือมาแต่ไหนแต่ไร เพราะมันคือชิปเก็บข้อมูลการใช้บริการที่ทำให้เราใช้งานเครือข่ายได้ตามเงื่อนไขหรือแพคเกจที่สมัครไว้กับโอเปอเรเตอร์ พูดง่ายๆ ก็คือถ้าไม่มีซิมการ์ดก็โทรไม่ได้นั่นเอง ตลอดเวลาเกือบ 30 ปีที่ผ่านมา ซิมการ์ดได้วิวัฒนาการให้มีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ จากตอนแรกที่มีขนาดเท่าบัตรเครดิต กลายมาเป็นชิปขนาดพอๆ กับการ์ด microSD แต่การวิวัฒนาการของซิมการ์ดจะยังไม่หยุดอยู่แค่นี้แน่นอน และในวันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จัก eSIM ซิมการ์ดรูปแบบใหม่ที่จะมาทำลายข้อจำกัดเดิมๆ ของซิมการ์ดที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ครับ
eSIM คืออะไร?
เปรียบเทียบซิมการ์ดขนาดต่างๆ และ eSIM (ภาพจาก GSM Arena)
eSIM หรือชื่อเต็มๆ คือ Embedded SIM เป็นซิมการ์ดรูปแบบใหม่ที่ได้รับการผลักดันจาก GSMA องค์กรระดับโลกที่คอยดูแลกิจการที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี GSM มีขนาดเล็กกว่า nanoSIM มาก โดยมีขนาดประมาณ 5x5 มม. เท่านั้น และฝังติดอยู่กับเมนบอร์ด ไม่สามารถถอดเข้าถอดออกได้เหมือนซิมการ์ดทั่วไป แต่ก็มาพร้อมกับคุณสมบัติการทำงานที่ครบถ้วนไม่ต่างจากซิมทั่วไป แถมยังช่วยให้บริการต่างๆ สะดวกและง่ายดายยิ่งขึ้นอีกด้วย
ข้อดีของ eSIM
ประโยชน์อื่นๆ ของ eSIM
eSIM ไม่ได้มีประโยชน์สำหรับสมาร์ทโฟนอย่างเดียว แต่ด้วยขนาดและความสามารถของมัน ทำให้นำไปใช้กับอุปกรณ์ Internet of Things อื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นแท็บเล็ต สมาร์ทวอทช์ แล็ปท็อป กล้องวงจรปิด รถยนต์ และอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้อุปกรณ์เหล่านี้เชื่อมต่อกันและกันได้ง่ายและมีประสิทธิภาพกว่าเดิม
อย่างไรก็ดี eSIM ยังคงเป็นเรื่องใหม่ และคงไม่เข้ามาแทนที่ซิมการ์ดที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้อย่างทันทีทันใด เพราะกว่าที่ eSIM จะกลายมาเป็นมาตรฐานใหม่ได้จะต้องเกิดจากการความร่วมมือของ 3 ฝ่ายด้วยกัน ได้แก่ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือที่จะต้องเปิดใช้ eSIM บนเครือข่าย ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่จะต้องผลิตแผงวงจรที่รองรับ eSIM และผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่จะนำ eSIM ไปใช้งาน ซึ่งยุคของ eSIM จะมาถึงเมื่อไหร่นั้น ต้องรอดูกันต่อไปครับ
---------------------------------------
ที่มา : GSM Arena , Cydiaplus , Popular Mechanics
บทความโดย : techmoblog.com
Update : 16/10/2017
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |