เคยสงสัยกันหรือไม่ ทำไม กล้อง iPhone ถึงเลือกความละเอียดที่ 12 ล้านพิกเซล ?

นับตั้งแต่การเปิดตัวของ iPhone 6s ในปี 2015 จนถึงรุ่นปัจจุบันอย่าง iPhone 12 เป็นเวลากว่า 6 ปีที่ iPhone ยังคงความละเอียดของกล้องด้านหลังไว้ที่ 12 ล้านพิกเซล ในขณะที่มือถือ Android รุ่นเรือธงหลายรุ่น อย่างเช่น Samsung Galaxy S20 Ultra ที่อัปเกรดกล้องด้านหลังไปถึง 108 ล้านพิกเซลกันแล้ว เคยสงสัยกันหรือไม่ว่า ทำไม Apple ถึงไม่อัปเกรดความละเอียดกล้องหลังของ iPhone ให้มากกว่า 12 ล้านพิกเซลบ้าง

โดยข้อสงสัยดังกล่าว ได้ถูกตั้งคำถามบนเว็บไซต์ reddit แม้ว่า Apple จะไม่ได้เข้ามาตอบคำถามดังกล่าวตรง ๆ แต่ส่วนใหญ่ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า สาเหตุที่ Apple ยังคงความละเอียดของกล้องด้านหลัง iPhone ไว้ที่ 12 ล้านพิกเซล เป็นเพราะเรื่องของขนาดความจุตัวเครื่อง เพราะยิ่งถ่ายรูปด้วยกล้องความละเอียดมากขึ้นเท่าไหร่ ขนาดของภาพถ่ายก็จะใหญ่ขึ้น ซึ่งความละเอียดที่ 12 ล้านพิกเซลนี้ ถือว่าเป็นขนาดที่สมเหตุสมผลกันระหว่างคุณภาพของภาพถ่ายและพื้นที่จัดเก็บข้อมูลในตัวเครื่อง

ด้านผู้ใช้ที่มีชื่อว่า oVerboostUK ซึ่งเป็นช่างถ่ายภาพ ได้เผยข้อมูลที่น่าสนใจว่า ความละเอียดของกล้องมือถือในหน่วยล้านพิกเซลนั้น จริง ๆ แล้วเป็นแค่กิมมิกด้านการตลาดเท่านั้น จริงอยู่ที่มีผลต่อคุณภาพของภาพถ่าย แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือ คุณภาพของเซ็นเซอร์ที่ใช้อยู่ การรวมกันระหว่างเซ็นเซอร์ขนาดเล็ก และจำนวนพิกเซลที่ไม่สูงมากนัก คือการจับคู่ที่เหมาะสมกันที่สุดแล้ว

ทั้งนี้ iPhone รุ่นใหม่ ๆ ที่เปิดตัว แม้จะไม่มีการอัปเกรดกล้องในเรื่องของจำนวนพิกเซล แต่สิ่งที่ถูกปรับปรุงก็คือ เซ็นเซอร์และกระบวนการประมวลผลภาพถ่าย ที่ Apple เน้นอัปเดตอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี มีข่าวลือว่า iPhone 14 ที่จะเปิดตัวในปี 2022 อาจจะอัปเกรดความละเอียดกล้องหลังเป็น 48 ล้านพิกเซล ซึ่งต้องคอยติดตามกันว่า ข่าวลือนี้จะเป็นความจริงหรือไม่

-------------------------------------
ที่มา : idropnews.com
เรียบเรียง : techmoblog.com

Update : 15/06/2021

iPhone