เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ iOS 11 ที่มาพร้อมกับลูกเล่นใหม่ ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Control Center ออกแบบใหม่ เข้าถึงการควบคุมทั้งหมดได้ในหน้าเดียว, Apple Maps เพิ่มแผนที่ภายในอาคารสำหรับสนามบินและศูนย์การค้าหลัก ๆ ทั่วโลก, เสียง Siri ทั้งผู้ชายและผู้หญิงดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น เพิ่มฟีเจอร์ Translantion ให้ Siri แปลคำในภาษาอังกฤษเป็นภาษาอื่น
ด้าน iPad ถือว่า เป็นการอัปเดตครั้งใหญ่สุดเท่าที่เคยมีมา ไม่ว่าจะเป็น Dock แบบใหม่ เข้าถึงแอปฯ และไฟล์ที่ใช้งานบ่อยได้ง่ายขึ้น, Files แอปฯ น้องใหม่ เก็บไฟล์ทั้งหมดไว้ในที่เดียว, Drag and Drop ฟีเจอร์ลากแล้ววาง สามารถย้ายข้อความหรือรูปภาพได้ง่ายขึ้น และเพิ่มคุณสมบัติใหม่บน Apple Pencil รองรับการวาดในตัว และเปิดตัวจากหน้าจอ Lock Screen ได้เลยกับฟีเจอร์ Instant Notes
▶▶ อ่านบทความเปิดตัว iOS 11 อย่างเป็นทางการจาก Apple ที่นี่
และอีกหนึ่งประเด็นที่ผู้ใช้อุปกรณ์ iOS จะต้องทราบ นั่นก็คือ iOS 11 รองรับการทำงานบน iPhone, iPad และ iPod รุ่นใดบ้าง ? รุ่นไหนไม่ได้ไปต่อ ? ทีมงาน techmoblog สรุปมาให้แล้ว ดังนี้
เพราะเหตุใด iPhone 5 และ iPhone 5C จึงไม่สามารถอัปเดต iOS 11 ได้ ?
จากภาพข้างต้น จะเห็นว่า iPhone รุ่นล่างสุดที่สามารถอัปเดต iOS 11 ได้ นั่นก็คือ iPhone 5S นั่นหมายความว่า รุ่นเก่าอย่าง iPhone 5 และ iPhone 5C ไม่สามารถอัปเดต iOS 11 ได้แล้ว โดยจะสิ้นสุดการอัปเดตแค่ iOS 10.3.2 (หรืออาจจะ iOS 10.3.3 ถ้ามี) ทั้งนี้เป็นเพราะ ข้อจำกัดทางด้านฮาร์ดแวร์ นั่นเอง
ซึ่ง iPhone 5 นั้น เปิดตัวเมื่อเดือนกันยายน ปี 2012 ส่วน iPhone 5C เปิดตัวเมื่อเดือนกันยายน ปี 2013 แต่ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมกับชิปเซ็ต Apple A6 ซึ่งเป็นแบบ 32-bit ในขณะที่ iOS 11 นั้น ถูกออกแบบมาให้ใช้กับชิปเซ็ตแบบ 64-bit เท่านั้น จึงเป็นสาเหตุที่ว่า เพราะเหตุใด iPhone 5 และ iPhone 5C ถึงไม่สามารถอัปเดต iOS 11 ได้ ส่วน iPhone 5S และ iPhone รุ่นที่ใหม่กว่า มาพร้อมกับชิปเซ็ตแบบ 64-bit ทำให้ยังสามารถอัปเดต iOS 11 ได้ต่อ
เช่นเดียวกับแอปพลิเคชันบน App Store นักพัฒนาจะต้องปรับเปลี่ยนแอปพลิเคชันของตนเองให้เป็นแบบ 64-bit ด้วยเช่นกัน ซึ่งที่ผ่านมา แอปเปิล ผลักดันให้นักพัฒนาหันไปพัฒนาแอปฯ แบบ 64-bit มาโดยตลอด และยังมีหลายแอปฯ บน Store ที่ยังเป็นแบบ 32-bit อยู่
ถึงแม้ว่า iPhone 5 จะสิ้นสุดการอัปเดต iOS แค่ iOS 10.3.x (iPhone 5 เปิดตัวพร้อม iOS 6) แต่จากช่วงเวลาเปิดตัวจนถึงปัจจุบัน เป็นเวลาถึง 5 ปี ก็ถือว่า คุ้มค่าแล้วสำหรับสมาร์ทโฟน
---------------------------------------
เรียบเรียงข้อมูลโดย : techmoblog.com
Update : 06/06/2017
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |