หากย้อนกลับไปเมื่อปี 2011 ชื่อ Xiaomi คงแทบจะไม่มีใครรู้จัก ซึ่งในตอนนั้น Xiaomi ก็เป็นเพียงสำนักงาน 3 ชั้นในตึกเล็กๆ ที่พนักงานต้องทำงานตัวเป็นเกลียวแทบไม่มีวันหยุดพักผ่อนเพื่อผลักดันสมาร์ทโฟนตัวแรกของบริษัท "Xiaomi Phone" เข้าสู่ตลาดในฐานะสมาร์ทโฟนเรือธงราคาจับต้องได้ และนั่นก็เป็นการผลักดันชื่อ Xiaomi เข้าสู่วงการสมาร์ทโฟนไปพร้อมกัน
ผ่านไปเพียง 6 ปี ในวันนี้ Xiaomi ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป Xiaomi กลายเป็นแบรนด์ที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางทั่วโลก และครองตลาดสมาร์ทโฟนในจีนอย่างเหนียวแน่น Xiaomi มีกลยุทธ์การทำตลาดที่น่าสนใจ โดยในระยะแรกจะเห็นว่ามือถือของ Xiaomi มีรูปร่างคล้าย iPhone ของค่าย apple มากหากดูจากกลยุทธ์ทางธุรกิจและการออกแบบผลิตภัณฑ์แล้วหลายคนอาจจะมองว่า Xiaomi เติบโตอยู่ใต้เงาของ Apple มาโดยตลอด ด้วยเหตุนี้เองทำให้ Xiaomi ได้รับฉายา "Apple แห่งเมืองจีน" ซึ่งจะถือว่าเป็นคำชมก็อาจจะพูดได้ไม่เต็มปากนัก แต่ล่าสุด Xiaomi ได้แสดงให้เห็นว่าต่อไปนี้จะไม่อยู่ใต้เงาของใครและจะไม่วางตัวเป็นสินค้าที่ถูกมองว่าลอกเลียนแบบใครอีกต่อไป ด้วยการโชว์คอนเซ็ปต์สมาร์ทโฟนจอไร้ขอบ Xiaomi Mi Mix ที่มีดีไซน์โดดเด่นเตะตา และสเปคที่อัดแน่นมาให้แบบในแบบที่สามารถเอาไปประชันกับสุดยอดเรือธงในตลาดอย่าง iPhone 7 และ Google Pixel ได้สบายๆ
Richard Lai นักเขียนจากเว็บไซต์ Engadget ได้เดินทางแกะรอยความสำเร็จของ Xiaomi ถึงสำนักงานใหญ่ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน Xiaomi ในวันนี้ต่างจาก Xiaomi ในวันวานอย่างไร เราไปหาคำตอบพร้อมๆ กันเลยครับ
สำนักงานใหญ่ Xiaomi ที่กรุงปักกิ่ง จากตึก 3 ชั้นเล็กๆ กลายมาเป็นอย่างที่เห็น
เมื่อเข้ามาด้านใน จะพบกับ reception และล็อบบี้ที่มีกระท่อมไม้ให้ผู้มาเยือนได้นั่งผ่อนคลาย
หากใครไม่อยากลงบันไดให้เมื่อย ในสำนักงานก็มีสไลเดอร์ไว้บริการ ซึ่งดูเหมือนจะได้แรงบันดาลใจมาจากสไลเดอร์ในสำนักงาน Google แบบเต็มๆ (เหมือนแม้กระทั่งสี)
บรรยากาศภายในออฟฟิศ
ชั้นใต้ดินทั้งชั้นจะเป็นโซนห้องอาหาร พนักงาน Xiaomi สามารถซื้ออาหารรับประทานได้ในราคาพิเศษ
ไม่ใช่แค่เรื่องงาน แต่การสันทนาการก็สำคัญเช่นกัน Xiaomi จะมีตารางกิจกรรมหลังเลิกงานสำหรับพนักงานซึ่งจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทั้งฟุตบอล เทนนิส แบตมินตัน ปิงปอง หมากล้อม เขียนภู่กัน และเต้นรำ ในขณะที่ไป Richard Lai เก็บภาพมานี้ที่ Xiaomi ก็กำลังมีกิจกรรมประกวดร้องเพลง และแพลงกิ้ง
ถัดจากสำนักงานใหญ่ก็แวะมาดูหน้าร้านกันบ้าง สโตร์ของ Xiaomi มีชื่อว่า Mi Home มองจากหน้าร้านก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศคุ้นๆตา
พอเดินเข้ามาในร้านยิ่งรู้สึกว่าบรรยากาศมันคุ้นมากๆ ถ้าไม่ดูป้ายคงนึกว่าอยู่ใน Apple Store เห็นได้ชัดว่า Xiaomi ได้อิทธิพลมาจาก Apple เยอะจริงๆ แต่ในอนาคตจะค่อยๆ ผละออกจากอิทธิพลนี้ไปหรือไม่ก็ต้องรอดูกันต่อไป
นอกจากมือถือแล้ว Xiaomi ยังมีโน้ตบุ๊กอีกด้วย ในชื่อ Mi Notebook Air (คุ้นๆ ทั้งชื่อและดีไซน์) ซึ่งก็มีสเปคไม่ขี้เหร่ด้วยหน้าจอ 13.3 นิ้ว CPU Intel Core i5-6200U การ์ดจอ NVIDIA GeForce 940MX พร้อม RAM 8 GB และ SSD 256 GB ในราคาเบาๆเพียง 26,000 บาท
Xiaomi Mi Mix มือถือเรือธงไร้ขอบสุดพรีเมียมที่ทำให้โลกฮือฮา แน่นอนว่าที่ประเทศบ้านเกิดก็ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม มีคนเข้ามาลองสัมผัสกันจำนวนมาก
นอกจากสินค้า IT แล้ว เครื่องใช้ไฟฟ้าก็มีขายด้วยเหมือนกัน ที่เห็นนี่คือทีวี 4K จอโค้ง 65 นิ้ว ของ Xiaomi
หรือแม้กระทั่งหม้อหุงข้าวก็ยังมี ดูเหมือนว่านอกจากจะเป็น Apple เมืองจีนแล้วยังจะเป็น Samsung เมืองจีนอีกด้วย :)
Mi Drone ติดกล้อง 4K ในราคาล่อตาล่อใจเพียง 16,000 บาทเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่า Xiaomi ได้ก้าวล้ำตลาดสมาร์ทโฟนไปแล้ว และกำลังขยายอาณาจักรของตนเองให้กว้างใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
เคาทเตอร์คิดเงินเรียบร้อยสะอาดตา ด้านหลังเป็นป้ายโฆษณา Mi Note 2 ที่ได้ "เหลียงเฉาเหว่ย" ดาราฮ่องกงที่คนไทยน่าจะรู้จักกันดีจากหนังดังอย่าง "2 คน 2 คม" มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้
ในขณะที่ Apple และ Google กำลังจะแข่งกันบนแพลตฟอร์มบ้านอัจฉริยะ Xiaomi ก็ไม่พลาด โผล่มาร่วมวงกับเขาด้วยเหมือนกัน ที่เห็นนี้คือตัวอย่างอุปกรณ์ Smart Home ของ Xiaomi เรียกว่าลงแข่งหมดทุกสนามจริงๆ
Xiaomi มีตลาดที่กว้างมากๆ ที่เห็นนี้คือตุ๊กตาเล่านิทานของ Xiaomi ที่มาพร้อมกับ audio book 10,000 เล่ม ในราคาแค่พันเดียวเท่านั้น
มองออกไปตรงข้าม Mi Home ดูเหมือนจะเป็นร้านของ Huawei คู่แข่งจากชาติเดียวกัน แต่ทางนั้นกลับเงียบจนน่ากลัว
จากการทัวร์ชมบ้านเกิดของ Xiaomi ทำให้เราพอจะเห็นได้ว่า ยักษ์ใหญ่แดนมังกรตัวนี้ใช้กลยุทธ์ "เดินตาม" และศึกษาจากคนที่เดินนำไปพร้อมๆ กัน และเมื่อสั่งสมประสบการณ์และสรรพกำลังจนพร้อมแล้ว ก็เริ่มก้าวขึ้นมา "เดินนำ" บ้าง นอกจากนี้ระหว่างที่กำลังฝ่าฟันขึ้นมาเป็นหัวแถว Xiaomi ก็ยังได้ขยายกลุ่มตลาดของตัวเองอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่แค่เป็นผู้เล่นในตลาดสมาร์ทโฟนทุกระดับอย่างเดียว แต่ยังจับตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิด แก็ดเจ็ตต่างๆ ไปจนถึงของจิปาถะอย่างเครื่องกรองน้ำและโคมไฟ LED ทำให้ตอนนี้ Xiaomi กลายเป็นอาณาจักรสินค้าที่ใหญ่มาก ด้วยเหตุนี้ Xiaomi จึงไม่ได้ "แข็งแกร่ง" แบบ Apple เท่านั้น แต่ยัง "ยิ่งใหญ่" แบบ Samsung ด้วย การผสมผสานของโมเดลธุรกิจทั้งสองแบบ อาจเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ Xiaomi ไต่ขึ้นมาอยู่แนวหน้าและกลายเป็นม้ามืดที่ยักษ์ใหญ่อย่าง Apple และ Samsung ต้องหันกลับมามอง อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครรู้ว่า Xiaomi จะวางกลยุทธ์ต่อไปอย่างไร และจะใช้ไพ่เด็ดในมืออย่าง Xiaomi Mi Mix ได้มีประโยชน์แค่ไหน ในอนาคตก็คงได้รู้กัน
---------------------------------------
ที่มา : Engadget
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com
Update : 01/11/2016
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |