หนึ่งในประเด็นที่ตกเป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับสมาร์ทวอทช์ นั่นก็คือ หน้าปัดจะไม่แสดงเวลาให้ทราบโดยตลอด ถ้าอยากจะดูเวลา ก็ต้องปลุกหน้าจอขึ้นมาเท่านั้น ซึ่งถึงแม้จะมีหลายบริษัทพยายามแก้ไขจุดอ่อนนี้ด้วยฟีเจอร์ Always-On Display หรือหน้าปัดที่จะคอยแสดงผลอยู่โดยตลอด แต่จะมีการลดแสงสว่างให้ต่ำลง อย่างไรก็ดี ปัญหาที่ตามมาคือ การใช้งานแบตเตอรี่ที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น ทำให้ท้ายที่สุดแล้ว เราต้องชาร์จนาฬิกาอยู่บ่อยๆ แต่ล่าสุดนี้มีบริษัทสตาร์ทอัพรายหนึ่ง ขออาสาแก้ปัญหาดังกล่าว ด้วยการสร้างสรรค์สมาร์ทวอทช์ที่มีทั้งเข็มนาฬิกาจริง และแผงหน้าจอทัชสรีนในตัว
ภายในงาน MWC ที่ผ่านมา นอกเหนือจากการเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ๆ แล้ว MyKronoz สตาร์ทอัพจากสวิสเซอร์แลนด์ก็ได้เป็นส่วนหนึ่งในงานดังกล่าว พร้อมกับเปิดตัว ZeTime นาฬิกาไฮบริดรุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมกับหน้าปัดทัชสกรีนแบบ TFT ขนาด 44mm ความละเอียด 240 x 240 พิกเซล ที่ด้านข้างมีการติดตั้งเม็ดมะยม และปุ่มควบคุมต่างๆ เอาไว้ โดยความพิเศษของหน้าจอทัชสกรีน จะมีการเจาะรูตรงกลางเอาไว้ เพื่อติดตั้งเข็มนาฬิกาของจริง ทำให้กลายเป็นนาฬิกาที่แฝงกลิ่นอายความคลาสสิก พร้อมกับฟีเจอร์ล้ำสมัย ซึ่งทางผู้พัฒนาระบุว่า ZeTime สามารถใช้งานได้นานถึง 30 วัน ต่อการชาร์จเพียง 1 ครั้ง
ซึ่งแน่นอนว่า สมาร์ทวอทช์จะต้องมี OS ขับเคลื่อนอยู่ภายใน โดย ZeTime ก็มีระบบปฏิบัติการเป็นของตัวเองเช่นเดียวกัน โดยตัวนาฬิกามีความสามารถพื้นฐานที่ไม่ต่างจากรุ่นอื่น ทั้ง การอ่านข้อความจากมือถือ, ดูสภาพอากาศ, ตรวจจับการวิ่ง, ควบคุมการฟังเพลง หรือเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ แต่สิ่งที่น่าสนใจของ ZeTime คือ เทคโนโลยี Smart Movement ที่จะคอยปรับเวลาให้ตรงกับสถานที่ปัจจุบัน และฟีเจอร์เปลี่ยนตำแหน่งเข็มนาฬิกาไม่ให้บดบังหน้าจอ หากผู้ใช้กำลังอ่านข้อความบนสมาร์ทวอทช์
ZeTime มีให้เลือกทั้งหมด 2 ขนาดด้วยกัน ได้แก่ 44mm และ 39mm พร้อมตัวเลือกสายแบบหลากหลาย ทั้งสายสเตนเลส, สายผ้า และสายหนัง โดยในขณะนี้ทางผู้พัฒนากำลังเปิดให้ผู้ที่สนใจร่วมระดมทุนผ่าน Kickstarter ซึ่งหากจ่ายเงินเป็นจำนวนขั้นต่ำ 139 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4,800 บาท จะได้รับชุด Eary Bird ซึ่งทางผู้พัฒนาตั้งเป้าที่จะส่งมอบของได้จริงในช่วงเดือนกันยายนที่กำลังจะถึงนี้ ซึ่งหากใครที่สนใจ สามารถแวะไปเยี่ยมชมที่เว็บไซต์ด้านล่างครับ
---------------------------------------
ที่มา : KickStarter, engadget
แปลและเรียบเรียง : techmoblog.com
Update : 26/04/2017
หน้าหลัก (Main) |
(สินค้า IT) ออกใหม่ |
|
FOLLOW US |